บางทีอาจจะจริงตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชอบพูดเตือนว่า
สร้างสรรค์กันเสียบ้าง อย่ามุ่งแต่ทำลาย!
หากแต่ที่นายกรัฐมนตรีพูดนั้น มักจะเป็นการกล่าวเตือนสื่อมวลชนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล หรือไม่ก็กล่าวตำหนิการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝ่ายตรงข้าม
เช่นเดียวกับ การเคารพกฎหมาย ที่นายกรัฐมนตรีชอบหยิบออกมาใช้กับผู้อื่นและฝ่ายอื่น
นายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่ได้มีแนวความคิดและไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึกเช่นเดียวกับนักการเมืองที่เชื่อมั่นในระบอบเสรีประชาธิปไตย
นายกรัฐมนตรีคนนี้แยกแยะไม่ออก ระหว่างความมีสิทธิเสรีภาพกับการจุดไฟก่อความวุ่นวาย
จึงมองไม่เห็น มือ ที่จุดไฟตัวจริง !
จะไม่มีวันนี้ และจะไม่มีนายกรัฐมนตรีคนนี้ ถ้าไม่มี นักจุดไฟ มืออาชีพเมื่อ 5 ปีก่อน
ที่ประเทศต้องตกอยู่ในกองเพลิงแห่งความขัดแย้งไม่ใช่เพราะการเมืองที่เลวร้าย
แต่เป็นเพราะ ทรรศนะที่เลวร้าย !
ฝ่ายหนึ่ง มีแต่ผิดและไม่รอด กับอีกฝ่ายหนึ่ง มีแต่ถูกกับรอด
ฝ่ายหนึ่ง พินาศย่อยยับกับอีกฝ่าย เริงร่ามีชัย
ไม่ได้ด้วยเล่ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยกลก็เอาด้วยปืน กติกาเช่นนี้มีที่ไหน !?
วานนี้ก็เอาอีกแล้ว
นายศรีสุวรรณ จรรยา ไปยื่นคำร้องให้ กกต. ตรวจสอบพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ที่จัดกิจกรรมชุมนุมหน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า เข้าข่าย ก่อกวน คุกคามความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามมาตรา 45 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองเป็นเหตุให้ กกต. เสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92(3) หรือไม่ เพราะชุมนุมผิดกฎหมาย ไม่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ เข้าข่ายก่อความวุ่นวาย เกิดปัญหาจราจร ผิดกฎหมายอาญามาตรา 116 ทั้งสถานที่จัดกิจกรรมก็อยู่ในรัศมี 150 เมตรจากวังสระปทุม ซึ่ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะห้ามมิให้ดำเนินการ
เล่นกันสนุกสนานคึกครื้น ลากกันไปให้ถึงขั้นเสนอให้ ยุบพรรค !
แต่ถ้าลองมีใครไปร้องขอ
ให้ยุบ พรรคพลังประชารัฐ ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และเป็นพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์บ้างก็คงต้องว่า คนพวกนั้นไม่สร้างสรรค์ สร้างความแตกแยก
พวกก่อความวุ่นวาย ทำลายความมั่นคง !?!!