“ยูทูบมติชนทีวี” กับ “มติชนออนไลน์” พร้อมใจกันสัมภาษณ์สด สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในประเด็นร้อนฉ่าจากที่ได้ตั้งปุจฉาเอาไว้ในเฟซบุ๊กว่า “พรรคการเมืองกู้เงินไม่ได้จริงหรือ”
“สมชัย” แบข้อมูลออกมาให้สาธารณชนเห็นสิ้นไส้ ว่ามีอีก 17 พรรคการเมืองที่กู้ยืมเงินเช่นเดียวกับ “อนาคตใหม่” ที่ กกต.ชุดนี้มีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเชือด ยุบพรรค ตัดสิทธิทางการเมือง พร้อมด้วยโทษทางอาญาถึงจำคุก
มีหลักฐานปรากฏในเอกสารงบการเงิน แบ่งได้เป็น 2 ภาค
ภาคแรก ช่วงปี 2557 ยุคที่ นายศุภชัย สมเจริญ เป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ปัจจุบันท่านอะร้าอะหร่าม อยู่บนเก้าอี้ “รองประธานวุฒิสภา”
ภาคที่สอง ช่วงปี 2562 ที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เป็นนายทะเบียน ปัจจุบัน ท่านเป็นเลขาธิการ กกต.และ “สำรองวุฒิสมาชิก อันดับที่ 8”
เพื่อความยุติธรรมเสมอกัน “สมชัย” จึงชวนให้ภาคพลเมืองร่วมวินิจฉัย
หากการกู้ยืมเงินทั้งสองช่วงเหตุการณ์เป็นความผิดและมีการปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการกับพรรคการเมืองอื่นๆ นายทะเบียนก็ต้องรับผิดเป็นอันดับแรก ?
อันดับต่อมา “กกต.” ในฐานะไม่กำกับดูแลให้เป็นไปอย่างถูกต้องด้วยกฎหมาย ก็ต้อง “รับผิด” ?
แต่ถ้าการกู้ยืมเงินเหล่านั้น “ไม่ผิด” การชงเรื่องกู้ยืมเงินของพรรคอนาคตใหม่ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องถือว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่อันมิชอบของ “นายทะเบียน”
และ กกต.5 ใน 7 จะต้อง “รับผิดชอบ” ต่อมติที่ส่งฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ !!
ข้อมูลจาก สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ที่เปิดเผยหลักฐาน รายละเอียด และจำนวนเงินกู้ยืมของพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งก่อนหน้า และปัจจุบัน ตั้งแต่ยุคนายทะเบียนชื่อ ศุภชัย สมเจริญ จนถึง จรุงวิทย์ ภุมมา เป็นการบ้านของ “ศุภชัย” กับ “จรุงวิทย์” นายทะเบียนพรรคการเมืองผู้มีและเคยมีหน้าที่อยู่ในองค์กร ซึ่งได้รับการออกแบบและจัดตั้งขึ้นมา เพื่อให้ดำรงไว้ซึ่งความสุจริตและยุติธรรมในการแข่งขันกันทางการเมือง
ผู้เป็น “กรรมการ” ต้องดำรงไว้ซึ่ง “ความเป็นกลาง”
หากสามารถพิสูจน์ได้ว่า “กรรมการ” มีอคติ ทำหน้าที่ด้วยความเอนเอียง ไม่เป็นกลาง เกื้อกูลประโยชน์แก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือร่วมกันลอบทำร้ายฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ความเป็น “กรรมการ” ก็มีอันสิ้นสุดลง
“กรรมการ” ที่กลายเป็น “ผู้เล่น” มีโทษอันใด !?!!
