เมื่อวันที่ 15 ม.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลเผชิญกับหลายปัญหา แต่รัฐบาลกลับมีการรับมือกับปัญหาที่แย่มาก หลายปัญหาเกิดขึ้นซ้ำๆ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้แก้ไข เพียงแต่หลอกตัวเองและซ่อนปัญหาเอาหน้ารอดไปแต่ละปีเท่านั้น ซึ่งทำให้ปัญหาเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งๆ ที่หลายฝ่ายได้มีการแนะนำแล้ว แต่รัฐบาลกลับไม่ทำหรืออาจจะทำไม่เป็น โดยปัญหาที่รัฐบาลเผชิญแต่ไม่ได้มีการแก้ไขอย่างถูกต้องมีดังนี้ 1.ปัญหาฝุ่น PM2.5 ซึ่งเป็นปัญหาทุกปีตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีอากาศแย่มี PM 2.5 ติดลำดับโลกไปแล้ว แต่ รมว.มหาดไทยกลับแก้ตัวว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพของประชาชน และ หากไม่เร่งแก้ไขและมีมาตรการที่เฉียบพลัน ในอนาคตจะมีคนไทยเป็นโรคทางเดินหายใจเป็นจำนวนมาก สุขภาพของประชาชนจะเสื่อมโทรม และค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มสูงขึ้นมาก 2.ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งรัฐบาลเคยประกาศว่าจะไม่มีภัยแล้งอีกแล้ว แต่ปีนี้กลับแล้งหนักมาก กินบริเวณเกือบค่อนประเทศ ทั้งๆที่รัฐบาลมีเวลาเตรียมตัวอยู่นานแต่ก็ไม่แก้ปัญหา แถมพลเอกประยุทธ์ยังแนะนำให้ประชาชนแก้ปัญหาด้วยการขุดบ่อน้ำ โดยไม่รู้ว่าจะเอาน้ำที่ไหนมาใส่บ่อที่จะขุดในภาวะที่แล้งขนาดนี้ 3.ปัญหาน้ำประปาเค็ม ซึ่งเป็นผลมาจากภัยแล้งจึงเกิดน้ำทะเลหนุน ทำให้น้ำประปาเค็ม แต่พลเอกประยุทธ์กลับบอกให้ประชาชนต้มน้ำก่อนนำมาบริโภค ทั้งที่การต้มน้ำยิ่งทำให้น้ำเค็มมากขึ้นเพราะน้ำจะระเหยออกไป เรื่องง่ายๆ แค่นึ้ยังไม่ทราบแล้วเรื่องยากๆ จะแก้ปัญหาได้อย่างไร 4.ปัญหาการฆ่าตัวตายของประชาชนจากพิษเศรษฐกิจ ซึ่งมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่รัฐบาลพยายามปกปิด หาว่าเป็นเพราะสาเหตุอื่น ทั้งที่ผู้ตายก็ระบุชัดเจนว่าเกิดจากพิษเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รมว.สาธารณสุขกลับบอกว่าอย่าเสนอข่าว อีกทั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กลับบอกว่า ให้ดูข่าวในโซเชียลให้น้อยลง ซึ่งเป็นการหลบปัญหา ไม่รับรู้ปัญหา มากกว่าจะเป็นการแก้ปัญหา 5. ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยว รัฐบาลพยายามจะโยนความผิดให้แบงก์ชาติ ทั้งที่รัฐบาลเป็นผู้แต่งตั้งผู้ว่าการ แบงก์ชาติคนนี้ ถึงอย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบของค่าเงินบาทแข็งที่ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่อย่างหลีกเลี่ยง ไม่ได้ อีกทั้งนายสมคิดเคยบอกว่าได้ตั้งคณะกรรมการดูแลค่าเงินบาทขึ้นมานานแล้วแต่ทำไมถึงทำงานไม่ได้ผล 6.ปัญหาเศรษฐกิจขยายตัวต่ำมาก รัฐบาลยิ่งบริหาร เศรษฐกิจไทยก็ยิ่งขยายตัวต่ำลงเรื่อยๆ ตลอด 5 ปีกว่าที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยย่ำแย่ มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำเตึ้ยเฉลี่ยเพียงปีละ 3% เท่านั้น ทั้งๆที่เศรษฐกิจโลกขยายตัวได้ดี แต่หลังจากเลือกตั้งเศรษฐกิจไทยกลับขยายตัวต่ำลงไปอีก โดยปี 2562 น่าจะขยายได้เพียง 2.5% เท่านั้น และ ปีนี้ก็น่าจะขยายได้ประมาณ 2.5 -2.8% ซึ่งจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยทรุดลงอีก แต่ นายสมคิดกลับบอกว่าพอใจกับ 2% กว่านี้ และอยากให้คนไทยก้าวข้ามจีดีพี ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะรัฐบาลคงจะหมดปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีกว่านี้ได้แล้ว ซึ่งผลกระทบจะทำให้เกิดการ ว่างงานและหนี้เสียเพิ่มขึ้นอีก และจะทำให้ประชาชนที่หมดหนทางแก้ปัญหา ต้องฆ่าตัวตายกันอีกมาก โดยหากรัฐบาลยังบริหารต่อไปเศรษฐกิจไทยจะทรุดลงเรื่อยๆ เพราะไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้แล้ว 7.ปัญหาคนเบื่อนายกฯ และ การ “วิ่งไล่ลุง” จากปัญหาที่สะสมมาตลอดกว่า 5 ปี และปัญหาทางเศรษฐกิจทำให้ประชาชนจำนวนมากเบื่อนายกรัฐมนตรี และออกมา “วิ่งไล่ลุง” กันเป็นจำนวนมาก และเกิดขึ้นในหลายจังหวัด แทนทึ่รัฐบาลจะรับฟัง ศึกษาเพื่อแก้ไข รัฐบาลกลับไปสนับสนุนให้มีการจัด “เดินเชียร์ลุง” ซึ่งไม่น่าจะเป็นทางแก้ไขที่ถูกต้อง และน่าจะยิ่งสร้างความไม่พอใจ ทำให้คนจำนวนมากเบื่อนายกฯ กันเพิ่มมากขึ้น ทั้งๆ ที่มีปัญหามากมายที่สะสมมานานแต่ไม่ได้มีการแก้ไข แถมยังมีการสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นใหม่ แต่พลเอกประยุทธ์กลับบอกว่าพาชาติมาถูกทางแล้ว ซึ่งแสดงว่าไม่ได้รู้สึกตัวเองเลยว่าบริหารผิดพลาดมาโดยตลอด ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ปัญหาของประเทศจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และน่าเป็นห่วงว่าจะมีคนออกมาไล่ลุงกันเพิ่มมากขึ้นอีกแน่
