รู้หรือไม่? ผลวิจัยชี้ ฝุ่น-มลภาวะ ทำคนเสี่ยงผมร่วง

ยิ่งนานวันเข้า สถานการณ์ฝุ่นโดยเฉพาะฝุ่นขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ในประเทศไทย ดูจะเป็นปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข เริ่มต้นจากในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขยายผลไปสู่วงกว้างหลายจังหวัดในประเทศไทย

โดยในที่ 17 มกราคม กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ในวันนี้ มีฝุ่นละอองเกิน เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 10 พื้นที่ ได้แก่ ริมถนนดินแดง เขตดินแดง, แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม, ริมถนนลาดพร้าว ซ.ลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง, ริมถนนพระราม3 – เจริญกรุง เขตบางคอแหลม, ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ, ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง, ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน, ริมถนนสามเสน เขตพระนคร, แขวงคลองเตย เขตคลองเตย และ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่

กระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ในงานนำเสนอผลงานวิจัย EADV Congress ครั้งที่ 28 ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ได้เปิดเผยว่า มลพิษ โดยเฉพาะฝุ่นขนาดเล็กนี้ มีความเชื่อมโยงกับการผมร่วงของมนุษย์ โดยได้ศึกษาจากการนำเซลล์ ที่นำมาจากรูขุมขนบนศีรษะ มาสัมผัสกับอนุภาคฝุ่นละออง ที่เกิดจากรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม

Advertisement

ผลการวิจัยพบว่า ฝุ่นพิษที่เรียกว่า PM10 และ อนุภาคเล็กๆ จากการเผาไหม้ของน้ำมันดีเซลในรถยนต์ ส่งผลต่อระดับของ บีต้า คาตินิน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของเส้นผม และยังเผยให้เห็นว่า ระดับโปรตีนอื่นๆ คือ cyclin D1, cyclin E and CDK2 ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม และเกาะยึดเส้นผมไว้มีระดับลดลง

นอกจากนี้ ยังระบุว่า ทั้ง PM 10 และ PM 2.5 มีส่วนสำคัญต่อการทำลายสุขภาพอื่นๆ ทั้งระบบหัวใจ ปอด มะเร็ง และปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ คาดการณ์ว่าปัญหามลภาวะในอากาศนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้คนในแต่ละปีมากกว่า 4.2 ล้านคน

ควอน ฮยอก ชอล หัวหน้านักวิจัยจาก The Future Science Research Centre ของเกาหลีใต้ เผยว่า แม้ว่าจะมีการศึกษาถึงผลกระทบต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ แต่ผลกระทบที่ส่งต่อผิวหนังและเส้นผมของมนุษย์นั้นยังมีไม่มากนัก โดยการวิจัยพบว่า ปฏิกิริยาที่มลพิษทางอากาศมีต่อเซลล์รูขุมขนของมนุษย์ ส่งผลต่อการผมร่วงได้

Advertisement

นั่นก็คือเมื่อมีมลพิษมากขึ้นจะส่งผลต่อการผมร่วงมากขึ้นนั่นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image