เหยี่ยวถลาลมประจำวันที่พุธ 8 เมษายน 2563 : ไทยไม่ได้เลวร้าย
ชอบจะพูดกันว่า ในวิกฤต-มีโอกาส
นั่นย่อมจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งองค์ความรู้ วิธีคิด มุมมอง ฝรั่งอาจจะว่า “จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้” คล้ายกับสายพุทธที่ว่า “ใจสั่งกาย” หรือ “จิต” สามารถบงการ “สมอง”
พุทธะไปไกลถึง “ปรมัตถธรรม” ซึ่งมองเห็นว่า สิ่งไหนเป็นสิ่งสมมุติ สิ่งใดเป็นความจริงแท้แน่นอน จึงเชื่อว่าทั้งหมดที่เป็นไปเกิดจาก “จิต” ที่สั่งการให้สมองกดปุ่มระบบปฏิบัติการขับเคลื่อนอวัยวะอันเป็นกลไกของร่างกายดำเนินไปวันต่อวัน
ที่ติดยึด ติดหลง มัวเมา งมงาย เช่น ติดยา ติดอำนาจ ติดวาสนา ติดตำแหน่ง ติดยศชั้นสถานะทั้งหมดนั้นก็ด้วยปฏิกิริยาทางเคมีในสมองที่ทำให้ผู้คนหลงอยู่กับภาพหลอนที่ปรากฏในสมอง
การที่จะมองเห็น “โอกาส” ในยามวิกฤตจะต้องมี “สติ” กำกับ “จิต” ไม่ให้หลุดเตลิด
อย่าหลงว่ามีความรู้อยู่คนเดียว กลุ่มเดียว พวกเดียว
อย่าหลงว่ามีอำนาจ แล้วจะใช้อำนาจสั่งให้เป็นไปอย่างไรก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยมีผู้ป่วยจากโควิด-19 จำนวน 43 คน เสียชีวิต 1 คน ขณะนั้น ที่อิตาลี มีผู้ติดเชื้อ 2,500 คน ฝรั่งเศสกับสเปน 200 คน และที่อเมริกา 128 คน
สหรัฐอเมริกา “ตั้งข้อรังเกียจ” ไทยไว้ในลำดับต้นๆ !
แต่ผ่านไปแค่เดือนเดียว
ถึงต้นเมษายน ผู้ป่วยในอเมริกา มีมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ถึงเกือบ 3.5 แสนคน เสียชีวิต เกือบ 10,000 คน
อันดับ 2 สเปน มีผู้ป่วยกว่า 1.3 แสนคน ตายกว่า 12,000 คน อันดับ 3 อิตาลี มีผู้ป่วยกว่า 1.2 แสนคน ตาย 16,000 คน อันดับ 4 เยอรมนี มีผู้ป่วยกว่า 1 แสนคน ตายกว่า 1,500 คน และอันดับ 5 ฝรั่งเศส มีผู้ป่วยเกือบ 1 แสนคน ตาย 8,000 คน
แม้แต่ “จีน” ที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเหยียดในฐานะที่เมืองอู่ฮั่นเป็น “จุดเริ่มต้น” การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ก็ยังไม่ติดอันดับ 1 ใน 5
ส่วน “ไทย” ถึงต้นเมษายน จำนวนผู้ป่วย 2 พันกว่าคน เสียชีวิต 20 กว่าคน อยู่ในอันดับ 39 จาก 183 ประเทศ
ไม่ได้กล่าวเพื่อให้ “เคลิ้ม” แล้วตั้งตนในความประมาท
แต่ยกกรณีขึ้นมาเพื่อให้รัฐบาลได้ใช้ความรู้ ใช้สมองและ “ใจ” ประสานเข้าด้วยกันค้นหา “โอกาส” ในวิกฤต
ถ้าปิดบ้านปิดเมืองนานไปก็เท่ากับ “ฆ่าตัวตายหมู่” !?!!
