“แม่ผมโดนรถชนวันที่ 31 ส.ค.62 อาการคือหัวไหล่หลุด แขนหัก, ก้านคอร้าว, และเดินไม่ได้ แล้วคนชนก็มาเยี่ยม วันแรกที่ชนให้เงินมา 5,000 บาท และอีก 1 เดือนครึ่ง นัดคุยเจรจาที่โรงพัก ทางคนชนโยนความรับผิดชอบให้ประกันชดใช้ รอทางประกันก็ไม่ตอบตกลง จนแม่ไปหาหมอ เขาบอกว่าแม่เป็นมาก ต้องใช้เวลารักษาหมอให้ใบรับรองแพทย์ให้แม่หยุด 1 ปี หมอบอกว่าแขนแม่ไม่มีแรง หัวไหล่ติดแขนรีบ, ขารีบ, อาจจะรักษาไม่หาย ต้องใช้เวลา 2 หรือ 3 ปี ถึงหายก็จะไม่เหมือนเดิมหรืออาจจะพิการ แม่ต้องออกจากงาน พ่อก็หยุดงานมาดูแลแม่ 2 เดือนกว่า พวกผมกับพี่ต้องเรียนหนังสือ ทางคนชนไม่มาดูแลเลยครับ เงินที่บ้านก็จะไม่มีใช้พวกเราลำบากมากจนพ่อต้องกลับไปทำงานที่เดิม แม่เลยให้ตำรวจทำเรื่อง ฟ้องร้องทางคนชน

“วันที่ทำสำนวนส่งคือ วันที่ 8/1/63 จนถึงตอนนี้ 5 เดือนแล้ว คดีก็ยังไม่ไปไหน พอโทรถามตำรวจเขาก็ผลัดไปผลัดมาตลอด เดี๋ยวทำให้เดี๋ยวทำให้จนตอนนี้แม่เจ็บมา 8 เดือนแล้ว ทางคนชนก็ไม่ติดต่อมา ทุกวันนี้แม่ต้องไปหาหมอประจำ การรักษาใช้สิทธิประกันสังคม ทางคนชนไม่เคยออกมาช่วยเหลือเลย บอกให้ไปคุยกับประกันภัยวิริยะเอาเอง ไม่งั้นผมจะทำประกันไปเพื่ออะไร”

“จากที่แม่ไม่เป็นหนี้สิน แม่ก็เป็นหนี้สินเอารถไปเข้า แล้วที่ทางก็กำลังจะโดนยึด พี่สาวกำลังเรียนมหาลัยปี 3 ส่วนผมกำลังจะขึ้น ม.3 ครับ แล้วแม่ที่ป่วย 1 คน หลังจากนั้นมาพ่อก็มาทิ้งแม่และพวกเราอีก เงินพ่อก็ให้น้อยลง แล้วเดือนนี้พอบอกว่าจะไม่ส่งให้พวกหนูกับแม่แล้ว แม่คิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง พวกเราลำบากมากครับ โทรไปหาตำรวจเขาก็ผลัด ที่ทางก็กำลังจะโดนยึดแม่เครียดมากจนอาการแย่ลง ตอนนี้ปิดเทอม ผมจึงอยู่ดูแลแม่ ผมอยากให้คุณทนายช่วยเหลือแม่ผมด้วยครับช่วยเรื่องคดีความ และเรื่องที่ดินที่กำลังจะโดนยึดครับ”

น้องหมีพู กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนหวังพึ่งทนายรณณรงค์ เพื่อให้ช่วยเหลือครอบครัวด้วย ตนเห็นแม่พยายามแขวนคอฆ่าตัวตายมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกแม่ใช้ผ้าปูที่นอนม้วนเป็นเกลียวพยายามแขวนคอตัวเองกับขื่อ ตนเห็นเลยรีบร้องว่าแม่อย่าทำๆ ครั้งที่สองแม่ก็ใช้เชือกพยายามผูกคอตัวเองกับราวบันได ตนก็เข้ามาห้ามแม่ก็บ่นอยากตายๆ ตนเห็นแม่ร้องไห้ทุกคืน ตนก็ร้องไห้ไปด้วย พี่สาวที่เรียนอยูปี 3 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน คณะวิศวะ ก็ต้องออกไปรับจ้างทำงาน ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำที่ไหนเพราะทุกที่ปิดกิจการกันแทบทุกร้าน

ด้าน ทนายรณณรงค์กล่าวว่า น้องหมีพู เข้ามาร้องเรียนขอความช่วยเหลือคดีที่แม่ถูกรถชนที่นครปฐม ไม่มีความคืบหน้า และประกันบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ มีการทำบันทึกไว้วันที่ 10 ต.ค.62 เวลาผ่านมา 8 เดือนแล้ว ยังไม่มีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับครอบครัวของน้องหมีพู กระทั่งน้องมาพบว่าแม่กำลังจะพยายามฆ่าตัวตาย จึงพยายามติดต่อเข้ามาทางเพจ ในวันพรุ่งนี้จะพาไปร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย

ซึ่งบริษัทประกันภัยเป็นประกันชั้น 1 ไม่รับผิดชอบตามที่ตกลงกันไว้ จะต้องส่งฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เกิดเรื่อง แต่อีก 4 เดือน จะครบปีจึงต้องเร่งดำเนินการเพราะคดีจะหมดอายุความ เพิ่งทราบว่าพนักงานสอบสวน ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบเข้าโรงพยาบาล จึงต้องขอให้ผู้กำกับในพื้นที่เปลี่ยนพนักงานให้เพื่อให้ความสะดวกเร็วขึ้น จึงอยากฝากวินวอนให้ท่านผู้กำกับถ้าดูข่าวอยู่ ช่วยเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน เพื่อเดินเรื่องให้น้องหมีพู เพราะน้องต้องเดินเรื่องเองทั้งที่ยังเป็นเด็ก แม่ยังเดินไม่ได้ จึงนับว่าเป็นครอบครัวที่น่าสงสารอย่างมาก

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากข่าวสด