เหยี่ยวถลาลม : ไปไม่เป็น
เมื่อได้ยิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) สั่งการให้ “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร” หรือ กอ.รมน. ทำโพลเรื่อง จะยกเลิก หรือคงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปก็ให้รู้สึกสงสัยในหัวนายกรัฐมนตรีเอามากๆ
ถ้าเรื่องแค่นี้นายกรัฐมนตรียังไม่รู้ว่ามีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนอย่างไรจนถึงกับต้องทำโพลโดยอ้างว่าจะไปใช้เป็น “แนวทาง” ตัดสินใจของ “ศบค.” เห็นท่าไปไม่รอดแน่
นายกรัฐมนตรีนั่งเป็น “ผอ.ศบค.” มีรายงานสถานการณ์โควิด-19 ทุกวัน
เกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศไม่มีผู้ป่วยมากว่า1 เดือนแล้ว ข้อมูลที่ปรากฏทั้งหมดเป็นประโยชน์สำหรับใช้บริหาร วางแผน และตัดสินใจ ทำไมคิดไม่ได้
หรือมีอะไรที่ “พ.ร.ก. ฉุกเฉิน” ยังยั่วยวนใจให้นายกรัฐมนตรีอยากจะคงเอาไว้ต่อไป
คำสั่งให้ “กอ.รมน.” ทำโพลราวกับละครฉากหนึ่ง !
นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าข้าราชการทั้งปวง นายกรัฐมนตรีนั่งควบเก้าอี้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” นายกรัฐมนตรีเป็น “ผอ.รมน.” เป็นผู้สั่งการให้ เสธ.ทบ. ซึ่งเป็น “เลขาธิการ กอ.รมน.” ไปทำโพล
จะทำโพลให้สิ้นเปลือง ให้เสียแรงทำไม !?
“พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ชื่อก็แจ้ง ว่าถ้าไม่จำเป็น ก็จะต้องไม่ใช้กฎหมายนี้
ถ้าไม่ใช่ภาวะที่ต้องใช้ความรวดเร็ว รวบรัดและแน่นอน ก็ “ไม่จำเป็น”
ไม่ควรใช้อำนาจพร่ำเพรื่อ !!
ประชาคมมีความยินดีที่ฝ่ายบริหารใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ในสถานการณ์ที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดเพื่อประโยชน์ของคนใหญ่ แต่ไม่ยินดีแน่นอนถ้าฝ่ายบริหารหรือนายกรัฐมนตรีใช้ด้วยติดใจ ลุแก่อำนาจ
ไม่เห็นจะต้องให้ “กอ.รมน.” ไปทำโพลเรื่องจะเลิกหรือไม่เลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อหมดสิ้นความเร่งด่วนก็ต้องเลิกคิดรวบรัดตัดความ
ถ้าชอบฟังเสียงประชาชน มีเรื่องราวมากมายให้ทำโพล
จัดงบให้องค์กรที่มีความเป็นกลาง มีความน่าเชื่อถือไปสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับ “250 ส.ว.” ว่าควรมี หรือไม่ควรมี สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินไปเพื่อประโยชน์ของใคร
หรือให้ไปทำโพลมาดูกันหน่อยว่า เห็นควรหรือไม่เห็นควร กับการล้วงกระเป๋าประชาชนเป็นแสนล้าน เพื่อเอาไป “อุ้มการบินไทย” บริษัทมหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
ปลายสมัยและเป็นไม้ใกล้ฝั่งกันแล้ว น่าจะพอกันเสียทีกับการทำเรื่องดื้อๆ ด้านๆ !?!!
