พลทหารผูกคอดับในค่ายอีก ญาติพบพิรุธอื้อ-ไม่เชื่อฆ่าตัว
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน กรณีเกิดเหตุพลทหาร พิชวัฒน์ เวียงนนท์ สังกัดมณฑลทหารบกที่ 27 จ.ร้อยเอ็ด ผูกคอตายในค่ายทหาร ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนว่าเกิดเหตุเพิ่มขึ้นอีกราย จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 56 บ้านโนนสวรรค์ หมู่ 1 ต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ไปพบกับครอบครัว พลทหารรชฏ เสนาสนิท อายุ 21 ปี ประจำค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ภายหลังจากพ่อแม่ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย หลังจากลูกชายกลายเป็นศพนั้น
ทางค่ายทหารโทรศัพท์มาแจ้งพ่อแม่ว่าลูกชายใช้ผ้าขาวม้าผูกคอคิดสั้นฆ่าตัวตายที่กระท่อมกลางน้ำที่หน่วยเรือนจำของค่าย เมื่อไปถึงค่ายทหารพบว่าศพพลทหารรชฏถูกส่งไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์โดยไม่มีการแจ้งญาติก่อน นายสุรชัย เสนาสนิท พ่อของพลทหารที่เสียชีวิตเห็นร่องรอยบาดแผลถูกของมีคมจิ้มที่ข้อมือ 1 แผล ทางค่ายทหารบอกว่าพลทหารกรีดแขนและผูกคอฆ่าตัวตาย ทำให้ทางญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิตเพราะมีพิรุธ
นางรำไพ เตื่อยมา อายุ 71 ปี ยายของพลทหารที่เสียชีวิต บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองและครอบครัวทุกคนไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดที่ทางค่ายทหารบอกว่าลูกชายป่วยเป็นโรคซึมเศร้าตามที่รุ่นพี่บอกกับทางญาติ เพราะหลานตนเองนั้นทุกคนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เห็นมาตั้งแต่เกิด มีนิสัยร่าเริง อัธยาศัยดี พูดคุย หยอกล้อเล่นกับเพื่อนๆ ในหมู่บ้านมาตลอด ไม่เคยเห็นเก็บตัวเงียบคนเดียว เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ตนเองและครอบครัวไม่มีใครเชื่อ มีพิรุธหลายอย่างหลังจากพ่อแม่ของหลานไปรับศพ การนำศพส่งโรงพยาบาลศรีนครินทร์เพื่อผ่าพิสูจน์โดยไม่แจ้งญาติให้รับทราบก่อน
ปกติญาติจะต้องเซ็นยินยอมก่อนจึงจะสามารถผ่าพิสูจน์ได้ และพบรอยแผลถูกของมีคมจิ้มที่ข้อมือด้านซ้าย บอกว่าหลานเอามีดปอกผลไม้จิ้มข้อมือตัวเอง ยิ่งทำให้ไม่เชื่อ เพราะมั่นใจว่าหลานไม่กล้าทำร้ายตัวเองแน่นอน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะนี้พ่อและแม่ของหลานกำลังเดินทางไปพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ย่อยศิลา เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม
ที่ สภ.ย่อยศิลา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสุรชัย เสนาสนิท อายุ 43 ปี และ น.ส. อุลัย เตื่อยมา อายุ 42 ปี พ่อและแม่ของ พลทหาร รชฏ เสนาสนิท อายุ 21 ปี พลทหาร นำเอกสาร หลักฐานต่างๆ เข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.อนุชิต ผดุงชาติ หน.สภ.ย่อยศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามการนัดให้ปากคำของทางเจ้าหน้าที่
นายสุรชัยกล่าวว่า ครอบครัวมีลูกเพียงคนเดียว ภาพที่เห็นทำให้สงสัยการตายอย่างมาก จึงขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบสาเหตุการตายที่แท้จริง เพื่อความเป็นธรรมกับครอบครัว ค่ายแจ้งมาว่าลูกชายเสียชีวิต และนำศพไปส่งผ่าพิสูจน์ โดยที่ครอบครัวยังคงไม่ได้ยินยอม หรือดำเนินการใดๆ ถ้าลูกชายไม่อยากเป็นทหาร ลูกคงไม่สมัครใจเข้ามาเป็นทหาร แต่นี่ลูกชายสมัครเข้ามาเป็นทหารเอง จึงไม่เชื่อว่า ลูกชายจะฆ่าตัวตาย
ส่วนกรณีลูกชายคุยแชตกับเพื่อนรุ่นพี่คนสุดท้ายนั้น ได้พูดคุยกับเพื่อนคนดังกล่าวแล้ว ทราบว่าคืนก่อนพบศพลูกชายนั้น เพื่อนรายดังกล่าว บอกว่าในคืนที่พบศพนั้นมีอาการปวดท้อง จึงเดินเข้าห้องน้ำ มองเห็นน้องยืนอยู่ที่ศาลาจุดเกิดเหตุ เมื่อเข้าห้องน้ำเรียบร้อย จึงเดินไปดูน้องก็พบว่าน้องผูกคอตายแล้ว จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบ
“ในส่วนของการชันสูตรพลิกศพ และการตรวจพิสูจน์วัตถุต่างๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น คงต้องรอผลการพิสูจน์ต่างๆ ครอบครัวเชื่อมั่นในตัวของแพทย์สถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จึงได้ทำการเผาศพเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้ครอบครัวรอเพียงผลพิสูจน์ ทั้งอาวุธมีด รอยเลือดและดีเอ็นเอในผ้าขาวม้า รวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกัน เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และเชื่อว่าจะเกิดความยุติธรรมให้กับลูกชายและครอบครัว” นายสุรชัยกล่าว
