อย. ตั้งเป้าส่งออก ‘กัญชา’ บุกตลาดโลก ให้ปชช.มีทางเลือก สร้างรายได้
วันนี้กระแสนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และในเชิงธุรกิจได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ใครไม่ติดตามเรื่องนี้อาจคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง ขณะนี้จ.บุรีรัมย์กำลังมีงานใหญ่ มหกรรม “กัญชา กัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน” ระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นำองค์ความรู้เกี่ยวกับพืชกัญชาและกัญชงมาเผยแพร่ รวมทั้งนิทรรศการนำผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมมาจัดแสดงและจำหน่ายจนหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว มีเข้าผู้เข้าร่วมงานคึกคัก ท่ามกลางการปฏิบัติมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มงวด
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข เดินทางเป็นประธานเปิดงาน กล่าวว่า ขณะสามารถดำเนินการปลูกกัญชา 6 ต้นได้แล้ว เพียงแต่ไปสมัครวิสาหกิจชุมชนกับหน่วยงานราชการ ปลูกภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ สร้างรายได้ทันที สำหรับกัญชงยิ่งง่ายกว่า ปลูกเร็วกว่า ก็ปลูกคู่กันไป เพียงแต่ทำเป็นวิสาหกิจชุมชน โดย สสจ.ให้ความร่วมมือ ทำให้พี่น้องประชาชนมีทางเลือกในการสร้างรายได้จากพืชกัญชง กัญชา ไม่มีคำว่าเหนื่อย เมื่อได้เห็นพี่น้องลืมตาอ้าปากได้ก็พยายามคลายล็อกให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย แต่ขอความร่วมมือว่าอย่านำไปใช้ในทางที่ผิด
ด้านภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า สิ่งที่น่าติดตามต่อจากนี้คือการเปิดโอกาสทางกฎหมาย ให้ประชาชนใช้ส่วนต่างๆ ของพืชกัญชากัญชงในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารปรุงสุก อาหารเสริม เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เป็นการเพิ่มมูลค่าและสามารถส่งออกได้มากขึ้น และตั้งเป้าจะเป็นศูนย์กลางผลิตและส่งออกไปในทวีปอื่นๆ ต่อไปในอนาคต และที่จะเร่งออกมาในอนาคตคือการอนุญาตใช้สารสกัดซีบีดี (CBD) ที่มีสารทีเอชซี (THC) น้อยกว่าร้อยละ 0.2 เพื่อเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง คาดว่าจะออกประกาศใช้ในเดือนมีนาคม และการอนุญาตใช้ในอาหารในเดือนเมษายน
