เช็กมาตรการล็อกดาวน์ เม.ย.63 หลัง สธ.ชงล็อกพื้นที่ งดออกเคหสถาน-เคอร์ฟิว

เช็กมาตรการล็อกดาวน์ เม.ย.63 หลัง สธ.ชงล็อกพื้นที่ งดออกเคหสถาน-เคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ชง ศบค.ยกระดับมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด โดยจะมีการปิดสถานที่บางแห่ง รวมถึงงดออกจากเคหสถานโดยไม่จำเป็น ยกเว้นเพื่ออุปโภคบริโภค พบแพทย์ และฉีดวัคซีน โดยระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะใกล้เคียงกับช่วงเมษายน 2563

ย้อนกลับไปเมื่อ 25 มีนาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยกระดับสู่มาตรการขั้นสูงสุด เพื่อให้รัฐสามารถนำมาตรการอื่นๆ มาบังคับใช้เพิ่มขึ้นจากเดิม ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

สำหรับมาตรการ ล็อกดาวน์ระดับประเทศ ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) มีดังนี้

1.ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง ตามที่แต่ละจังหวัด ได้มีคำสั่ง

Advertisement

2.ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรค อาทิ สนามมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามเด็กเล่น สนามม้า ผับ สถานบริการ สถานที่แสดงมหรสพ สถานที่มีการแสดงหรือละเล่นสาธารณะ สถานประกอบการ อาบ อบ นวด และนวดแผนโบราณ สปา สถานที่ออกกำลังกาย (ฟิตเนส) สถานบันเทิง

ส่วนสถานที่อื่นๆ เช่น แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ พิพิธภัณฑสถาน ห้องสมุดสาธารณะ ศาสนสถาน สถานีขนส่งหรือโดยสาร ตลาด ห้างสรรพสินค้า ให้พิจารณาปิดเฉพาะส่วนหรือทั้งหมด แล้วแต่กรณี

3.ปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้ง อากาศยาน เรือ รถยนต์ หรือพาหนะอื่นใด ทั้งทางบก อากาศ และทางน้ำ

Advertisement

4.ห้ามกักตุนสินค้า ทั้งยา เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม หรือสินค้าจำเป็นต่ออุปโภคบริโภค ในชีวิตประจำวัน

5.การห้ามชุมนุม มิให้ชุมนุม ทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ สถานที่แออัดใด หรือยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

6.การเสนอข่าว ห้ามเสนอข่าวเท็จ ให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว

ทั้งนี้ โรงพยายาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านอาหารในส่วนที่ไม่ใช่สถานบันเทิง หรือสถานบริการ และแผงจำหน่ายอาหาร ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ร้านค้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้าส่วนแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต แผนกขายยา แผนกอาหาร แแผนกสินค้าเบ็ดเตล็ด ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ตลาดและตลาดนัดส่วนอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงรส อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์และสินค้าเบ็ดเตล็ด แก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส การให้บริการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้ำ รวมทั้งบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง เปิดได้ตามปกติ

พร้อมกันนี้ ข้อกำหนด ยังห้ามให้บุคคลใดทั่วราชอาณาจักร ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็น หรือผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ ธนาคาร ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ และบางอาชีพ

ทั้งนี้ ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 22) ได้ประกาศเพิ่มเติมว่า

1.ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันการแพร่โรคเมื่ออยู่เคหสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ

2.ร้านจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ลักษณะนำกลับ งดบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุรา ที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดถึงเวลา 21.00 น.

3.กำหนดพื้นที่ควบคุม และงดเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image