เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ศาลอาญาธนบุรี ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้ พะเยา นักกิจกรรมทางการเมืองแนวร่วมราษฎร เป็นจำเลย ในความผิดฐานมาตรา 112 จากกรณีการปราศรัยเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2563 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ กรุงเทพมหานคร
โดยวันนี้ น.ส.วรรณวลี หรือตี้ พะเยา เดินทางมาศาลพร้อมเปิดเผยว่า ทุกอย่างได้จัดการเรียบร้อยแล้ว ทั้งเรื่องเรียน แต่ว่าที่จะฝากเอาไว้คืออยากให้สื่อมวลชนติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุแก๊ซ เพราะตนทราบมาว่าคนที่ถูกจับจะโดนเจ้าหน้าที่ข่มขู่ คุกคาม มีการซ้อมและทำร้าย ตนได้รับรู้ปัญหาตรงนี้จึงอยากฝากสื่อมวลชนช่วยติดตามด้วย ซึ่งกลุ่มทะลุแก๊ซที่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมายและไม่กล้านำโทรศัพท์ขึ้นมาไลฟ์สด จึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำร้ายได้
น.ส.วรรณวลีกล่าวต่ออีกว่า ความกังวลในวันนี้ตนก็มี หากเราได้เข้าไปถูกคุมขัง การต่อสู้ข้างนอกจะเป็นอย่างไร และครอบครัวของเราจะรู้สึกอย่างไร สำหรับการเข้าไปในเรือนจำ ตนเคยได้เข้าไปมาแล้วคงไม่อึดอัด และค่อนข้างมั่นใจว่าตนเองเข้มแข็งพอและอาจจะชอบกับการได้อยู่คนเดียวซึ่งถือเป็นการฝึกปฏิบัติตนไปในตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลอาญาธนบุรีนัดไต่สวนวันนี้ เวลา 10.00 น. ด้านเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้าฟังนอกจากคู่ความ รวมถึงตัวแทนสถานทูตสวีเดน
สำหรับพนักงานอัยการระบุว่า ในการประกันตัวศาลได้กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยที่ 2 ห้ามกระทำในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาตามฟ้องอันเป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันหรือเข้าร่วมกิจกรรมใดที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
แต่อัยการได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุปผาราม ว่าเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 17.00 น. ถึง 20.30 น. จำเลยที่ 2 ได้เข้าร่วมในกิจกรรมชุมนุม “ราษฎรยืนยันดันเพดาน” ซึ่งเป็นการชุมนุมโดยไม่ได้ขออนุญาตจากสำนักงานเขตพื้นที่ มีการใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 700 คน การบริหารจัดการผู้ร่วมชุมนุมแออัดใกล้ชิด ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค โดย น.ส.วรรณวลีได้ปราศรัยเกี่ยวกับสถาบันและกฎหมายมาตรา 112 อันเป็นการผิดเงื่อนไขการประกันตัว อัยการจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย
ทั้งนี้ อัยการยังได้ส่งบันทึกการถอดเทปคำปราศรัยในการชุมนุมวันดังกล่าว ซึ่งถอดโดย พ.ต.ท.ธนพล ติ้นหนู สารวัตรสอบสวน สน.ปทุมวัน ประกอบการพิจารณาของศาลด้วยโดยศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว น.ส.วรรณวลี ด้วยหลักทรัพย์ 2 แสนบาท เป็นหลักประกัน พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำผิดซ้ำ อันจะทำให้เกิดความเสียหายต่อสถาบัน, ห้ามชุมนุมก่อความวุ่นวาย, ห้ามออกนอกประเทศ และต้องมาศาลทุกนัด
ต่อมา ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้องขอถอนประกันในคดีที่พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอถอนประกัน น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้ พะเยา วันนี้พนักงานอัยการ จำเลย ทนายจำเลย และ ร.ต.อ.วสันต์ดิลก คำโสภา มาศาล ศาลสอบถามจำเลยและทนายจำเลยเกี่ยวกับคำร้องขอเพิกถอนการขอปล่อยชั่วคราว จำเลยและทนายจำเลยทั้งสองแถลงรับว่า วันที่ 24 มิ.ย.64 จำเลยเข้าร่วมกิจกรรมที่บริเวณลานสกายวอล์ก แยกปทุมวัน และมีการพูดปราศรัยต่อผู้ชุมนุมจริง แต่ข้อความตามที่ปรากฏในบันทึกการถอดเทปบางส่วนไม่ถูกต้อง และข้อความทั้งหมดที่จำเลยพูดนั้นพูดในลักษณะแสดงความคิดเห็นมิได้มีเจตนาดูหมิ่นสถาบันแต่อย่างใด
ศาลสอบถามพนักงานอัยการโจทก์แล้ว พนักงานอัยการโจทก์แถลงว่า เหตุที่โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวจำเลย เนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจนำเรื่องดังกล่าวมาเสนอต่อโจทก์ และวันนี้โจทก์นำ ร.ต.อ.วสันต์ดิลกมาแถลงศาลเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในส่วนนี้ ร.ต.อ.วสันต์ดิลกแถลงต่อศาลว่า ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้มอบหมายให้มาติดต่อกับพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการขอให้ศาลเพิกถอนการประกันตัวจำเลย บันทึกการถอดเทปกลุ่มผู้ชุมนุมแนบท้ายคำร้องของพนักงานอัยการนั้นผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ถอดเทป ตนไม่ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการชุมนุมตรงบริเวณดังกล่าว
แต่หลังจากวันที่ 24 มิ.ย. เจ้าพนักงานตำรวจก็ไม่ได้รับรายงานว่าจำเลยเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองอื่นใดอีก ศาลสอบถามจำเลยเกี่ยวกับข้อความในบันทึกการถอดเทปดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง จำเลยรับว่าได้พูดข้อความดังกล่าวจริง แต่ต้องการพูดเพียงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกลุ่มคนที่ใส่เสื้อเหลืองเท่านั้น มิได้มีเจตนาที่จะดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทสถาบัน แต่จำเลยรับว่าหลังจากวันนี้จะไม่กล่าวถ้อยคำหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการหมิ่นสถาบันต่ออีก หากยังกระทำการดังกล่าวยอมให้ศาลเพิกถอนสัญญาประกันได้ทันที
พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยที่ยังเป็นนักศึกษาและหลังจากวันที่ 24 มิ.ย.ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นการผิดเงื่อนไขของสัญญาประกันซ้ำอีกเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมและให้โอกาสจำเลยในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ จึงเพียงแต่ว่ากล่าวตักเตือนให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นอาจถูกเพิกถอนสัญญาประกันได้
