ศบค.ยันสถานการณ์โควิดเริ่มดี กทม.ฉีดเข็ม 2 ครบ 70%  ใน ต.ค. จ่อเปิดเมือง 1 พ.ย.นี้

ศบค.ยันสถานการณ์โควิดเริ่มดี กทม.ฉีดเข็ม 2 ครบ 70% ใน ต.ค.จ่อเปิดเมือง 1 พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันในประเทศไทย ว่า สถานการณ์การฉีดวัคซีนในประเทศไทยวันนี้ฉีดไปได้ 811,915 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 300,033 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 511,087 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 795 ราย รวมฉีดวัคซีนสะสมทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ จำนวน 46,023,016 โดส เข็มที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 41 ของประชากรทั้งประเทศ เข็มที่ 2 คิดเป็นร้อยละ 22.1 ของประชากรทั้งประเทศ และเข็มที่ 3 รวมจำนวน 622,748 ราย

นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า การฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด พบว่า ในภาพรวมนั้น สามารถฉีดวัคซีนไปได้ทั้งหมด ร้อยละ 63 โดยกรุงเทพมหานคร สามารถฉีดวัคซีนไปได้สูงที่สุดถึงร้อยละ 99.3 รองลงมา ปทุมธานี คือ ร้อยละ 71.9 และฉะเชิงเทรา ร้อยละ 70 และในภาพรวมจังหวัดอื่นๆ อีก 48 จังหวัด คิดเป็นร้อยละ 48.9 และภาพรวมทั้งประเทศร้อยละ 55

“เป้าหมายของการฉีดวัคซีนเดือนกันยายน เข็มที่ 1 คือ ต้องครบร้อยละ 70 ในกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป, 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์) และในเดือนตุลาคมนั้น เป้าหมายจะขยับไปอีก เป็นการฉีดเข็มที่ 2 ในกลุ่ม 608 ให้ได้ทุกจังหวัด และภาพรวมประชากรทุกกลุ่มวัยจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ถึงร้อยละ 50” นพ.เฉวตสรรกล่าว

นพ.เฉวตสรรกล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ว่าภาพรวมของโลกมีแนวโน้มลดลง สำหรับประเทศไทยยังอยู่ในอันดับที่ 29 และมีอัตราการป่วย 21,586 รายต่อประชากร 1 ล้านคน และอัตราเสียชีวิต 225 ราย ต่อประชากร 1 ล้านคน ซึ่งในวันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 11,252 ราย แบ่งเป็น ติดเชื้อภายในประเทศ จำนวน 11,207 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ จำนวน 17 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง จำนวน 28 ราย รวมผู้ป่วยสะสม จำนวน 1,482,494 ราย และกำลังรักษาอยู่ 129,071 ราย สำหรับผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วในวันนี้มีจำนวน 13,695 ราย รวมหายป่วยสะสมมีจำนวน 1,339,107 ราย และในวันนี้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 141 ราย แบ่งเป็น กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 109 ราย คิดเป็นร้อยละ 77 และอายุน้อยกว่า 60 ปี ที่มีโรคเรื้อรังจำนวน 28 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 และไม่มีโรคเรื้อรัง 4 ราย คิดเป็นร้อยละ 3

Advertisement

“เป็นจำนวนที่ลดต่ำลงมาจากปลายเดือนสิงหาคม ในช่วงที่การระบาดผ่านระลอกคลื่นใหญ่แล้ว สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยอาการหนัก (ปอดอักเสบ) มีจำนวนลดลงจากวันที่ 1 กันยายน 4,917 ราย เหลือ 3,464 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจจาก 1,040 ราย เหลือ 753 ราย ซึ่งมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง และค่าเฉลี่ยมีแนวโน้มลดลงทุกพื้นที่ แต่ยังคงมีความแกว่งตัวอยู่” นพ.เฉวตสรรกล่าว

นพ.เฉวตสรรยังกล่าวถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ ในระยะนี้ว่า งานบุญ งานประเพณีต่างๆ งานศพ งานกฐิน งานเกษียณ และเทศกาลกินเจ ต้องมีการกำหนดมาตรการต่างๆ ในท้องที่ อยากให้ใช้มาตรการ DMHTTA ลดกิจกรรมบางส่วน เว้นระยะห่าง ซึ่งตามสถานการณ์ในแต่ละอำเภอ ก็อยากให้มีการควบคุมเข้มงวดต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามในกรณีที่มีการยกร่าง พ.ร.ก.แก้ไขพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ศ. … เพิ่มเติม นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องนำรายละเอียด ข้อเสนอแนะที่ได้จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปปรับปรุงเนื้อหาสาระให้มีความเหมาะสม ครบถ้วน และดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง และยังไม่มีผลในขณะนี้ ซึ่งในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ก็ยังไม่มีผลบังคับใช้แน่นอน

Advertisement

เมื่อถามอีกว่า กรณีเปิดเมืองนำร่อง หนึ่งในนั้นคือ กรุงเทพฯ แซนด์บ็อกซ์ ที่มีแนวโน้มว่าจะเริ่มเปิดในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) ได้นำเสนอร่าง “รีโอเพ่น ไทยแลนด์” เพื่อเปิดพื้นที่ ซึ่งจะต้องมีข้อพิจารณาโดยรอบคอบ ส่วนของกรุงเทพมหานคร หากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครบครอบคลุมร้อยละ 70 ภายในเดือนตุลาคมนี้ ก็อาจจะเปิดได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ แต่จะต้องพิจารณาต่อไป ทั้งความพร้อมของนักท่องเที่ยว ความพร้อมของประชาชน ความพร้อมของระบบการติดตาม และจะต้องมีกลไกที่ต้องพร้อมรับมือ ยกตัวอย่าง จ.ภูเก็ต ที่มีบริการคลินิกอุ่นใจ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการวินิจฉัยโรคโควิด-19 ซึ่งได้ทำการตรวจหาเชื้อ และเจอเชื้อร่วม 100 ราย จากนั้นได้ทำการส่งเข้าระบบการรักษาแล้ว พื้นที่อื่นจะต้องเรียนรู้และเอาไปปรับใช้งาน

ต่อข้อถามถึงกรณีวัคซีนบูสเตอร์โดส สำหรับผู้ที่จองโมเดอร์นาไว้สามารถเข้ารับเป็นบูสเตอร์โดสได้หรือไม่ นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า ท่านใดที่จองไว้ ซึ่งปัจจุบันวัคซีนโมเดอร์นาได้มีกรอบเวลาชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จึงขอแนะสำหรับผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ทำการจองโมเดอร์นาไว้ ให้ฉีดโมเดอร์นากระตุ้นได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว จะมีการใช้ระบบของผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนก่อนเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จะได้รับการติดต่อผ่านทางข้อความสั้น (sms) จากระบบ “หมอพร้อม” ให้ไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 กระตุ้นภูมิ

“แต่หากไม่ได้รับการติดต่อ ให้ติดต่อกลับไปที่ศูนย์ฉีดวัคซีนเดิมที่เคยฉีด เพื่อป้องกันการตกหล่น แต่สำหรับประชาชนที่จองวัคซีนโมเดอร์นาไว้กับภาคเอกชน แนะให้ไปกระตุ้นได้ แต่อาจจะต้องรอสักพัก แต่คิดว่าไม่นานเกินรอ ทั้งนี้ วัคซีนเป็นตัวเปลี่ยนเกม เป็นตัวที่สร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชนคนไทย และของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทย ความมั่นใจเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การดำเนินชีวิตมีความราบรื่น และเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ยังอยากให้ทุกท่านมั่นใจและเข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง” นพ.เฉวตสรรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image