ข่าวหน้า 1 ร่ำไห้-กราบ พระบรมศพ ถวายบังคมวันแรกแน่น แจงช่องทางจองเจ้าภาพ

สำนักพระราชวังเปิดให้พสกนิกรเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันแรก เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม วันแรกกราบถวายบังคมพระบรมศพคนแน่น เลิกแจกบัตรคิว สำนักพระราชวังเปิดให้เข้าตั้งแต่ตี 5 แจ้งอย่ากังวลชุดสุภาพ-รองเท้าหุ้มส้น จัดผ้าถุงให้เปลี่ยน-ถอดรองเท้าเข้ากราบ

@ พระเทพฯทรงบำเพ็ญกุศล

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ในการพระราชพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อคืนวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีคุณพลอยไพลิน เจนเซน ธิดาในทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมพิธีด้วย

เวลา 11.00 น. ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงเป็นประธานในการบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมจากวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ

Advertisement

เวลา 15.15 น. ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง มีพระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร สวดพระอภิธรรม

ต่อมาเวลา 19.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร

@ แจ้งระเบียบขอร่วมเป็นเจ้าภาพ

Advertisement

เวลา 10.00 น. สำนักพระราชวังแจ้งว่า หลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) ถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศล ผู้มีความประสงค์ขอเป็นเจ้าภาพร่วมบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพ สามารถแสดงความจำนงขอเป็นเจ้าภาพได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560

ทั้งนี้ สามารถดาวน์โหลดตัวอย่างหนังสือการขอร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพ ได้ที่ www.brh.thaigov.net ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป หรือขอตัวอย่างหนังสือได้ที่ฝ่ายทะเบียนสำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า) และเมื่อเขียนหรือพิมพ์ครบถ้วนแล้ว สามารถส่งมาที่สำนักพระราชวังได้ 4 ช่องทาง คือ 1.ส่งเอกสารด้วยตนเองที่ฝ่ายทะเบียน อาคาร 601 สำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า) ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 2.ส่งเอกสารทางโทรสารหมายเลข 0-2280-8708 3.ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ พร้อมจ่าหน้าซองถึง เรียนเลขาธิการพระราชวัง สำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า) ถนนศรีอยุธยา แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 และ 4.ส่งทาง E-mail address : [email protected] โดยสแกนเป็นไฟล์ PDF เมื่อผู้ขอได้ส่งเอกสารการจองเป็นเจ้าภาพร่วมในการบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังจะส่งหนังสือตอบรับกำหนดวันและแจ้งรายละเอียดในการเป็นเจ้าภาพให้ทราบ ก่อนวันและเวลาที่ท่านเป็นเจ้าภาพ 15 วัน

@ สักการะพระบรมศพคิวแรกตีห้า

ด้านบรรยากาศวันแรกที่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ช่วงเวลา 08.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) พบว่ามีประชาชนมารอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพจำนวนมาก โดยคิวแรกเจ้าหน้าที่ให้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ตั้งแต่เวลา 05.15 น. เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากมาเข้าแถวรอตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักพระราชวังจึงได้ปรับเวลาใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก ยังคงมีเสียงสะอื้นไห้พร้อมคราบน้ำตาของความอาลัย และพสกนิกรหลายคนนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในพระอิริยาบถต่างๆ มาถือไว้แนบอก

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จัดให้เดินเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี สู่ประตูพิมานไชยศรี เรียงแถว 4 คน ผ่านพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเลี้ยวขวาเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นไปกราบถวายบังคมพระบรมศพหน้าพระบรมโกศ รอบละ 50 คน ก่อนเดินออกทางประตูศรีสุนทรและเทวาภิรมย์ ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพพระบรมโกศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว และยาดม

สมุนไพรสูตรผ่อนคลาย ร่วมถวายเป็นพระราชกุศลจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ สถานีอนามัยพระราชทานนาม และมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แด่พสกนิกรที่มาร่วมกราบถวายบังคมพระบรมศพด้วย

@ พสกนิกรปลื้มปีติเข้ากราบ

นางวิภาดา จันทะลือ อายุ 58 ปี ชาวบ้านย่านบางบอน ที่ได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพชุดแรก กล่าวว่า ปกติแล้วมาเฝ้าอยู่ที่ศาลาศิริราช 100 ปี ตั้งแต่ปี 2549 ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา วันนี้เป็นวันสำคัญจึงเตรียมตัวอย่างดี แม้จะต้องตากฝนตลอดคืนวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ไปเข้าคิวเพื่อให้ได้เข้าไปกราบถวายบังคม เพราะอยากจะทำเพื่อพระองค์บ้าง

นายดาว บุญแจ่ม ชาว จ.พิษณุโลก ที่เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพกลุ่มแรก กล่าวว่า เดินทางมาจากบ้านเกิดที่ จ.พิษณุโลก พร้อมกับครอบครัวพ่อแม่ลูกอีก 8 คน ตั้งแต่หัวค่ำวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้จะเจอกับสายฝนที่โหมกระหน่ำมาอย่างหนักก็ไม่เคยหวั่นเกรง รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่จากนี้ต่อไปจะไม่มีพระองค์อีกแล้ว แต่ลึกๆ ในใจก็คิดว่าพ่อจะได้พักผ่อนไม่ต้องเหนื่อยเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

@ เผ่าเย้าสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ

ด้าน ด.ญ.วรกมล แซ่จ๋าว อายุ 12 ปี และ ด.ญ.อุไรวรรณ เกตุเหล็ก อายุ 13 ปี ชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ที่แต่งกายด้วยชุดประจำเผ่าเดินทางมากับคณะจังหวัด กล่าวว่า ทราบดีว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำสิ่งต่างๆ มากมาย เพื่อประชาชน และยังช่วยชาวเผ่าด้วย หมู่บ้านของเราได้น้อมนำคำสอนของพระองค์มาปฏิบัติในด้านเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการปลูกผัก เลี้ยงไก่ เวลาทำสิ่งไหนแล้วรู้สึกเหนื่อย ครูจะบอกเสมอว่า มีผู้ที่เหนื่อยกว่าเรามาก นั่นก็คือในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้มีกำลังใจ และตั้งใจจะเป็นคนดีของพ่อแม่ ตั้งใจเรียน พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริต่างๆ มาใช้ เพื่อตามรอยเท้าพ่อ

นางวัลภา ตั้งศรีสกุลไทย อายุ 54 ปี ชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า กล่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงให้ความช่วยเหลือชาวเขามาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ รุ่นพ่อแม่เล่าให้ฟังเสมอว่าพระองค์ทรงเข้ามาช่วยให้รู้จักการเกษตร เพาะปลูกผลไม้ พืชล้มลุกแทนการปลูกฝิ่น พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก ลูกหลานได้เรียนหนังสือ มีหน้าที่การงานทำที่ดี บางคนได้รับราชการ นอกจากนี้ชาวเขาบางคนได้รับพระมหากรุณาธิคุณได้รับสัญชาติไทย ได้เป็นพสกนิกรของพระองค์

@ สรุปวันแรกเข้ากราบ2.9หมื่นคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงบ่ายจรดเย็น ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พสกนิกรทั่วประเทศต่างทยอยเดินทางเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ และเวลา 19.00 น. ประชาชนจำนวนมากยังคงตกค้างอยู่บริเวณถนนหน้าพระลาน และสนามหลวงนับหมื่นคน เพื่อรอเข้าไปกราบถวายพระบังคมพระบรมศพ ให้ทันภายในเวลา 21.00 น. แม้เจ้าหน้าที่ได้ประกาศประชาสัมพันธ์ว่าบางส่วนอาจไม่ได้กราบถวายบังคมพระบรมศพ แต่ประชาชนยังยืนยันที่จะเข้าแถวเหมือนเดิม แม้ว่าเวลา 20.00 น. จะมีฝนตกลงมาประชาชนก็ยังยืนเข้าแถวเหมือนเดิม

เวลา 21.00 น. สำนักพระราชวัง ปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ขณะที่ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ยังคงตกค้างอยู่บริเวณเต็นท์บนถนนหน้าพระลาน และภายในสนามหลวง ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งมาร่วมกันยืนไว้อาลัยบริเวณหน้าประตูวิเศษไชยศรี

ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสงบนิ่งแทนการเข้าสักการะ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ ขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งยังคงปักหลักรอบริเวณเต็นท์และท้องสนามหลวง เพื่อหวังจะได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ เป็นคิวแรกในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ และเวลา 22.30 น. สำนักพระราชวัง ได้สรุปยอดประชาชนที่เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ วันแรกว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 29,480 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยได้ออกกำหนดการเดินทางของประชาชนจากต่างจังหวัดเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ประกอบด้วย ประชาชนจาก 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย จันทบุรี ขอนแก่น และ จ.ชุมพร จังหวัดละ 750 คน รวม 3,000 คน

@ ตั้งเต็นท์ ให้เปลี่ยนชุดสุภาพฟรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ร่วมกับตัวแทนจากบริษัทสามจุดหนึ่งสี่ จำกัด ได้ตั้งเต็นท์บริเวณสนามหลวงให้บริการประชาชนในการเปลี่ยนชุดดำสุภาพฟรี เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ซึ่งมีประชาชนมายืนต่อแถวขอเปลี่ยนชุดเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ตัวแทนบริษัทสามจุดหนึ่งสี่ จำกัด กล่าวว่า สน.ชนะสงครามและบริษัทร่วมจัดหาเสื้อผ้าชุดดำสุภาพ เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ที่อาจจะไม่มีกระโปรงหรือเสื้อผ้าในชุดสุภาพสามารถมาเปลี่ยนได้เพียงแค่นำบัตรประชาชนมาลงชื่อ เมื่อถวายบังคมพระบรมศพเสร็จแล้วให้นำชุดมาคืนที่จุดเดิม

ขณะที่บริษัทนันยาง จำกัด นำรองเท้ากว่า 1,000 คู่ มาให้บริการประชาชนที่มีความตั้งใจจะมากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยนายจักรพล จักรทวิมล กรรมการบริษัท นันยาง กล่าวว่า บริษัทเน้นย้ำว่าไม่แจกฟรี ไม่ขาย เน้นการให้ยืม วัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ประชาชนที่ใส่รองเท้าไม่สุภาพมายืมเปลี่ยนและเข้าไปยังด้านในได้ โดยนำบัตรประชาชนมาลงชื่อ และเมื่อใช้งานเสร็จสิ้นจะต้องนำรองเท้ามาคืน เพื่อให้คนอื่นใช้บริการต่อไป

@ อย่ากังวลเรื่องการแต่งกาย

พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณพระบรมมหาราชวัง ณ กองอำนวยการร่วมฯ ที่สนามหลวง ว่าประชาชนบางส่วนมีความกังวลใจเกี่ยวกับการแต่งกายในการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยเฉพาะประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ซึ่งแต่ละคนมีสถานะและวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน การแต่งกายจึงมีความแตกต่างกันไป อีกทั้งบางคนไม่เคยใส่รองเท้าหุ้มส้นมาตลอดชีวิต จึงเกิดความกังวลใจและต้องพยายามหารองเท้าหรือเครื่องแต่งกายที่ถูกต้อง

“ขอเรียนให้ทราบเพื่อลดความกังวลใจ ว่าสำนักพระราชวังมีความยินดีที่จะต้อนรับพสกนิกรของพระองค์ท่าน ซึ่งเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ ด้วยความจงรักภักดี โดยขอให้ประชาชนทั้งชายและหญิงแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงสวมกระโปรง หากมีความจำเป็นไม่ได้ใส่กระโปรงมา สำนักพระราชวังได้เตรียมผ้าถุงไว้บริการด้านหน้าก่อนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ในส่วนของรองเท้านั้น เนื่องจากในการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ทุกคนต้องถอดรองเท้า ดังนั้นท่านใดที่ไม่มีรองเท้าหุ้มส้นก็สามารถเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพได้ โดยสำนักพระราชวังจะเป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ประชาชนที่ไม่มีเสื้อสีดำก็สามารถสวมเสื้อผ้าที่มีโทนสีเข้มใกล้เคียงกับสีดำมากราบถวายบังคมพระบรมศพได้” พล.ต.ท.อำนวยกล่าว

@ แจกบัตรคิว-เปลี่ยนสีตามวัน

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดแนวทางรองรับประชาชนที่จะเดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานดูแลประชาชนอย่างเต็มที่และพร้อมปรับแผนได้ทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะช่วง 2-3 วันแรก ที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางไปเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ แผนหลักจะมีการแจกบัตรคิวแก่ประชาชนวันละ 10,000 ใบ ณ จุดรับบัตรบริเวณสนามหลวงด้านฝั่งศาลฎีกา โดยสีของบัตรจะเป็นสีตามวัน เพื่อความเรียบร้อยและป้องกันการปลอมแปลง

“รัฐบาลขอความร่วมมือผู้ที่จะเดินทางไปหรือไปถึงแล้ว ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เช่น ไม่นำรถส่วนบุคคลเข้าไปในพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง ต้องแต่งกายสุภาพ สำรวมกิริยาวาจาให้เหมาะสม” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

@ วันแรกคนแน่นยกเลิกแจก

พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) กล่าวว่า วันแรกยังไม่มีการแจกบัตรคิวเนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางมาจำนวนมาก หากประชาชนคนใดมีความประสงค์จะเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ จะต้องต่อแถวเริ่มต้นตั้งแต่ฝั่งตรงข้ามศาลฎีกาเป็นต้นไป

ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ชี้แจงถึงการยกเลิกบัตรคิวว่า เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการตามสถานการณ์ เพราะวันแรกที่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ มีประชาชนเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการใช้วิธีการแจกบัตรคิว 1 หมื่นใบ จึงไม่เหมาะกับสถานการณ์ เพราะประชาชนทุกคนมีความตั้งใจที่จะเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ การยกเลิกบัตรและเปลี่ยนมาใช้วิธีการให้เข้าไปเป็นกลุ่ม จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพได้เป็นจำนวนมากขึ้นและรวดเร็วขึ้น

@ ข้อควรปฏิบัติเข้ากราบถวายบังคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศตส.มีการเผยแพร่ข้อควรปฏิบัติในการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ คือ 1.เดินตรงจากประตูบนพระที่นั่งด้านมุขตะวันออกเข้าไปในพื้นที่กราบถวายบังคมพระบรมศพ 2.เจ้าหน้าที่กรมวังจัดเรียงผู้เข้ากราบถวายบังคมเป็นแถวหน้ากระดาน (แถวละ 4 ท่าน) ตรงไปยังหน้าพระบรมโกศ 3.ผู้เข้ากราบแถวแรกนั่งพับเพียบ ปลายเท้าหันไปทางขวา มือทั้งสองประสานไว้บนตัก 4.ผู้เข้ากราบแถวที่ 2, 3 และแถวต่อๆ ไปตามลำดับ นั่งพับเพียบให้ตรงกับแถวแรก 5.เจ้าหน้าที่กรมวังเรียนเชิญทุกท่านกราบพระบรมศพพร้อมกัน 1 ครั้ง โดยทอดแขนทั้งสองออกไปให้ข้อศอกคร่อมที่หัวเข่า มือพนมกับพื้นไว้ ไม่แบมือ แล้วน้อมศีรษะลงให้หน้าผากจรดที่นิ้วหัวแม่มือ 6.เงยหน้าขึ้นแล้วนั่งพักทอดสายตาไปข้างหน้าก่อนลุกขึ้นยืน 7.เจ้าหน้าที่กรมวังเชิญทุกท่านเดินลงจากพระที่นั่งฯทางด้านมุขเหนือ มีทางลงบันได 2 ช่องทาง 8.เมื่อลงจากพระที่นั่งแล้วให้เดินไปทางด้านซ้ายมือเพื่อไปสวมรองเท้าที่ถอดไว้ที่ริมกำแพงแก้วทิศตะวันตก 9.ออกทางประตูศรีสุนทร ผ่านประตูเทวาภิรมย์ ด้านถนนมหาราช ท่าราชวรดิฐ

@ ชาวกาญจน์750คนเข้ากราบ

ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีกระทรวงมหาดไทยให้จังหวัดต่างๆ อำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมเป็นต้นไป จังหวัดละ 750 คน โดย 4 จังหวัดแรกคือ กระบี่ กำแพงเพชร กาฬสินธุ์ และกาญจนบุรีนั้น ที่ จ.กาญจนบุรี นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มอบหมายให้นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ นายณรงค์ รักร้อย รองผู้ว่าฯ กาญจนบุรี และนายพจน์ หรูวรนันท์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี นำพสกนิกร อ.เมืองกาญจนบุรี 500 คน และ อ.ไทรโยค 250 คน รวม 750 คน ขึ้นรถบัส 15 คัน เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณลานหน้าศาลหลักเมือง

เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าเข้า กทม. ทั้งนี้ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้พระราชทานข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่มให้พสกนิกร 800 กล่อง ยังความปลาบปลื้มและซาบซึ้งใจแก่พสกนิกรอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ จ.กาญจนบุรี มีกำหนดนำประชาชนเดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ 6 ครั้ง ครั้งแรกวันที่ 29 ตุลาคม ครั้งที่ 2 วันที่ 13 พฤศจิกายน ครั้งที่ 3 วันที่ 28 พฤศจิกายน ครั้งที่ 4 วันที่ 13 ธันวาคม ครั้งที่ 5 วันที่ 28 ธันวาคม 2559 และครั้งสุดท้ายวันที่ 12 มกราคม 2560

@ ชาวกระบี่แวะพักค่ายธนะรัชต์

ที่สนามกีฬากลางค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา 04.00 น. นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ทหารค่ายธนะรัชต์ ให้การต้อนรับประชาชนจาก จ.กระบี่ 210 คน ซึ่งเดินทางโดยรถบัส 4 คัน รถตู้ 2 คัน มาแวะพักระหว่างเดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยเจ้าหน้าที่เตรียมอาหาร เครื่องดื่ม น้ำดื่ม หน่วยพยาบาล รถสุขา รถสื่อสารเพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้ประชาชน

เวลา 05.30 น. ที่บริเวณลานจอดรถ ริมทะเลสาบ อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าฯนนทบุรี พร้อมคณะ ตรวจความพร้อมการอำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยใช้พื้นที่ลานจอดรถของอิมแพค เมืองทองธานี เป็นจุดจอดพัก รวมทั้งให้การต้อนรับประชาชนจาก จ.กำแพงเพชรและกาฬสินธุ์ ที่เดินทางมาถึงจุดแวะพักเป็นขบวนแรก

@ พระบรมฯทรงรับสั่งเพิ่มอาหาร

ที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานอาหาร ผลไม้ ขนมหวาน น้ำดื่ม โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารนำมาแจกจ่ายประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองงานในพระองค์ เปิดเผยว่า เนื่องจากเป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ คาดว่าจะมีประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงได้เพิ่มปริมาณอาหารให้มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับประชาชน โดยเพิ่มในส่วนของอาหารทุกมื้อตั้งแต่เช้า กลางวัน และมื้อเย็น รอบละ 4,000 ชุด โดยอาหารพระราชทานแต่ละมื้อล้วนเป็นอาหารจากร้านเด็ดดังในกรุงเทพฯ โดยช่วงเช้าจะเป็นเส้นหมี่กระเพาะปลา มื้อกลางวัน ขนมจีบซาลาเปา ผัดไทยกุ้งสด แบล็คแคนยอน ส่วนอาหารว่างที่บริการในช่วงบ่ายยังคงเป็นขนมไทยหลากชนิดเช่นทุกวัน และมื้อเย็นเป็นข้าวราดพะแนงไก่-หมู และข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ส่วนวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ได้เตรียมอาหารพระราชทานไว้อีกรอบละ 4,000 ชุด ประกอบด้วย มื้อเช้า เป็นโจ๊กหมู-ตับ นมหนองโพ มื้อกลางวัน แกงส้ม ขนมจีบ ซาลาเปา และมื้อเย็นเป็นผัดไทย ไข่พะโล้

@ ทูต’กีวี’มอบแอปเปิล-ขนมปัง

ที่จุดบริการประชาชนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ใกล้กับประตูเทวาภิรมย์ ท่าราชวรดิฐ เมื่อเวลา 10.00 น. นายเบน คิง เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย พร้อมครอบครัว นำแอปเปิลนิวซีแลนด์ จำนวน 5,000 ลูก และขนมปัง 1,000 ชิ้น มาส่งมอบให้กับ พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาร่วมกราบถวายบังคมพระบรมศพ ทั้งนี้ พล.ต.ต.กรไชยกล่าวว่า นายเบน คิง มีความรู้สึกเดียวกันและมีความห่วงใยกับประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก จึงได้นำของทั้งหมดมาแจกจ่ายประชาชน

ด้าน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมข้าราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) นำข้าวเปลือกบรรจุถุงขนาดเล็กติดข้อความข้อความ “พอเพียง” มามอบให้แก่ประชาชนที่เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ บริเวณประตูศรีสุนทร พระบรมมหาราชวัง และ สปน.ได้ขอความร่วมมือจากอาสาสมัครช่วยแพคข้าวแจกประชาชนตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม-21 มกราคม 2560 จากเดิมที่ตั้งเป้าจะแจก 10,000 ถุงต่อวัน ต่อมาเนื่องจากไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงได้เพิ่มเป็นวันละ 20,000 ถุงต่อวัน

@ มิสไทยแลนด์เวิลด์แจกไก่ทอด

ที่เต็นท์มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย บริเวณหน้าประตูมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะมิสไทยแลนด์เวิลด์ นำโดย น.ส.จิณณ์ณิตา บุดดี หรือไดร์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 น.ส.ธัญชนก มูลนิลตา หรือเฟรนส์ฟราย มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 และ น.ส.ศิริรัตน์ เรืองศรี หรือหนูสิ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2010 มาร่วมแจกข้าวเหนียวไก่ทอดให้กับประชาชนโดยรอบ ทั้งนี้ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ได้เตรียมข้าวเหนียว 750 กิโลกรัม ไก่ 1,500 กิโลกรัม ไว้สำหรับประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพ

@ กทม.จัดระเบียบสนามหลวงใหม่

พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กรมศิลปากรได้เตรียมการจัดสร้างพระเมรุมาศ จะใช้พื้นที่อย่างน้อย 2 ใน 3 ของพื้นที่สนามหลวง โดยเฉพาะทางด้านทิศใต้ ดังนั้นจะเหลือพื้นที่ใช้สอยหรือบริหารจัดการเพื่อรองรับประชาชนที่จะมากราบถวายบังคมพระบรมศพ เพียง 1 ใน 3 ของพื้นที่สนามหลวงทั้งหมด จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการพื้นที่ใหม่ โดยจากนี้ไปในพื้นที่บริเวณสนามหลวงให้มีเพียงประชาชนที่จะมากราบถวายบังคมพระบรมศพเท่านั้น

พล.ต.ท.อำนวยกล่าวว่า จะมีการกำหนดเวลาแจกจ่ายอาหารให้ประชาชนบริเวณสนามหลวงใหม่ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการ ควบคุมปริมาณอาหารให้พอดีกับประชาชน และลดปริมาณขยะ สำหรับการแจกอาหารจะขอความร่วมมือให้ทำเป็นรอบๆ ตามช่วงเวลาช่วงเช้า ช่วงกลางวัน และช่วงค่ำ อีกทั้งจะงดแจกอาหารหลังเวลา 20.00 น.เป็นต้นไป ยกเว้นน้ำดื่ม เพื่อความเป็นระเบียบในการบริหารจัดการและดูแลพื้นที่

@ สื่อนอกตีข่าวคนไทยเข้ากราบ

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า คลื่นประชาชนชาวไทยแห่แหนมายังบริเวณพระบรมมหาราชวังกันเป็นจำนวนมาก เพื่อหวังจะเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หลังจากสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมได้เป็นวันแรก ทั้งนี้ ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คลื่นมหาชนคนไทยได้หลั่งไหลกันมาสักการะและแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บริเวณพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวังเป็นจำนวนมาก

ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า ประชาชนจำนวนมากพากันเดินทางมายังพระบรมมหาราชวัง เพื่อหวังจะเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ พร้อมรายงานถึงแนวทางของเจ้าหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้เข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ

ทั้งนี้ นางแวววรรณ ลิ้มสุด อายุ 42 ปี ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ขณะยืนรอเพื่อเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพว่า พร้อมแล้วที่จะไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ เพราะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้แสดงความอาลัยแด่พระองค์ท่าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image