‘ชัชชาติ’ โผล่ดูหนังกลางแปลง ลานคนเมือง – บ่นหิว ได้หม่ำข้าวโพดคั่วฟรี
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่บริเวณลานคนเมือง เขตพระนคร กรุงเทพฯ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ร่วมกับสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย, หอภาพยนตร์ Thai Film Archive, สมาคมหนังกลางแปลง และ Better Bangkok จัดงานเทศกาลภาพยนตร์ ภายใต้ชื่อ ‘กรุงเทพกลางแปลง’ โดยเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนการฉายหนังกลางแปลงว่ามีฝนตกลงมาเล็กน้อย ภายในงานมีบูธขายอาหารมากมาย อาทิ ข้าวเกรียบว่าว, บ๊ะจ่าง, เครื่องดื่ม, ลูกชิ้นปิ้ง และป๊อปคอร์น เป็นต้น
เวลา 19.30 น. เริ่มฉายภาพยนตร์เรื่อง ‘แพรดำ’ โดยประชาชนต่างจับจองพื้นที่ ปูเสื่อนั่งชมเต็มพื้นที่บริเวณลานคนเมือง โดยเนื้อหาภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยการบรรเลงดนตรีไทย ต่อด้วยการเทศนาโดยพระภิกษุ ถึงเรื่อง “กฎแห่งกรรม” ความไม่ประมาทและชะล่าใจเกี่ยวกับกรรมที่ทำ ว่าจะไม่พบพาน
อ่านข่าว : แห่ดู ‘แพรดำ’ ตีแผ่มุมมืดปุถุชน-วังวน ‘กฎแห่งกรรม’ ปิดจบโปรแกรมหนัง ลานคนเมือง
บรรยากาศเวลา 20.45 น. ขณะที่ ‘แพรดำ’ ฉายได้ครึ่งเรื่อง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปรากฏตัวที่ลานคนเมือง โดยได้เข้าไปพูดคุยกับ น.ส.ชลิดา เอื้อบำรุงจิต ผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) โดยหลังจากที่ประชาชนทราบว่านายชัชชาติเดินทางมาถึง ต่างก็พากันเข้าไปขอถ่ายภาพร่วมเป็นจำนวนมาก
น.ส.ชลิดากล่าวถึงภาพยนตร์เรื่อง “แพรดำ” ซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโปรแกรมคานส์คลาสสิก ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ประจำปี 2020 และนำมาฉายวันนี้ว่า เป็นการพยายามจะนำวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก
“วันนี้ฉายแพรดำ เป็นหนังไทยเรื่องแรก ที่ไปฉายในเทศกาลนานาชาติ ที่กรุงเบอร์ลิน (Berlin International Film Festival) ประเทศเยอรมนี ในปี พ.ศ.2504 มีเรื่องซอฟต์พาวเวอร์เยอะมาก โดยคุณรัตน์ พยายามจะนำวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ คุณรัตน์เชื่อว่า ภาพยนตร์จะเป็นสิ่งที่นำพาวัฒนธรรมไป และเรื่องนี้เป็นซาวนด์ออนฟิลม์”
ในตอนหนึ่ง น.ส.ชลิดาเผยว่า มีอยู่ฉากหนึ่งที่ รัตนาวดี รัตนาพันธ์ ซึ่งเป็นนักแสดงนำหญิงเรื่องแพรดำ นำลูกสาวมาเล่นแทน
“รัตนาวดี รัตนาพันธ์ ในเรื่องมีฉากต้องโกนผม แล้วดาราสมัยนั้นไม่มีใครยอม คุณรัตน์จึงเอาลูกสาวมาเล่น แต่หนังเรื่องนี้เอากลับมาฉายใหม่ ก็เป็นรับแรงบันดาลใจให้เรื่อง ฟ้าทะลายโจร”
โดยนายชัชชาติกล่าวว่า “ดูรู้เรื่องไหม”
ด้าน น.ส.ชลิดายืนยันว่า “รู้เรื่อง”
ขณะที่แอดมินหมูกล่าวกับประชาชนที่สงสัยว่าเหตุใดต้องฉายเรื่องแพรดำ “เป็นภาพยนตร์ไทยที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยออกนอกประเทศ เอาความหลากหลายมาให้ประชาชนได้เห็น”
จากนั้นนายชัชชาติเดินไปหาอะไรรับประทานภายในงาน ท่ามกลางประชาชนกรูเข้ามาขอถ่ายภาพคู่อย่างต่อเนื่อง บางรายระบุว่า เดินทางมาไกลจากจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี เป็นต้น
“ตีรถมาจากเมืองกาญจนบุรี มาทำบุญ และตามหาอาจารย์ที่นี่” “ขอบคุณมาก ท่านเป็นขวัญใจคนจนจริงๆ” ประชาชนกล่าว
ด้านนายชัชชาติกล่าวว่า “เราควรจะไปดูหนังหรือเปล่า” ก่อนหัวเราะ
ในตอนหนึ่ง นายชัชชาติสอบถามแอดมินหมูว่า พรุ่งนี้มีเรื่องอะไร โดยเมื่อแอดมินหมูกล่าวว่า พรุ่งนี้ไม่มีที่ลานคนเมือง
นายชัชชาติอุทานว่า เอ้า ฉิบ*** ไม่มีหรอ เดี๋ยวไปหาอะไรกินก่อน ระหว่างนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้นำป๊อปคอร์นมาเทใส่มือให้นายชัชชาติทาน
“ของฟรีโคตรอร่อยเลย อร่อยมากเลย ขอบคุณนะครับที่ให้ป๊อบคอร์นผมกิน” นายชัชชาติกล่าว
โดย ‘ติ๊ก’ เจ้าของข้าวโพดคั่ว ให้สัมภาษณ์ว่า ถือเข้าไปตอนขอถ่ายภาพกับนายชัชชาติ นายชัชชาติบอกว่า ‘หิว กินบ้างสิ เทให้หน่อย’ ทั้งนี้ ตลอดทางที่นายชัชชาติกำลังจะเดินเข้าไปภายในงานก็มีประชาชนเข้ามาขอถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวลา 20.55 น. มีฝนโปรยลงมาเล็กน้อย ส่งผลให้ประชาชนที่นั่งชมภาพยนตร์ เริ่มกางร่ม แต่ยังคงนั่งดูต่อไป
ทั้งนี้ น.ส.มิณราญาพร สำนองคำ หรือมุก หนึ่งในทีมผู้จัด ‘กรุงเทพกลางแปลง’ กล่าวกับแฟนเพจชัชชาติว่า วันนี้ทุกคนไม่หนี ฝนตกก็ไม่หนี วันนี้ทุกคนเอาร่มมากัน ของเราก็มีร่มให้ยืมด้วย พร้อมกับไวนิล วันนี้ทุกคนกางร่ม ปูเสื่อดู น่ารักมาก
ต่อมาเวลา 21.03 น. นายชัชชาติได้เดินชมบริเวณโซนร้านค้าภายในงาน พร้อมกล่าวว่า เราไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง เกรงใจคนดูหนัง โดยตลอดทางที่เดินเยี่ยมชมร้านค้ายังคงมีประชาชนเดินเข้ามาขอถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก โดยร้านที่เข้าไปเยี่ยมชมและพูดคุย มีทั้งร้านขายมะม่วงและร้านขายหมึกบด
“หิวข้าวไม่ได้กินข้าว” นายชัชชาติกล่าว พร้อมระบุว่า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเดินซื้ออาหารพร้อมถามแม่ค้าว่า ขายดีหรือไม่
เวลา 21.16 น. นายชัชชาติเดินมาซื้อลูกชุบ โดยที่แม่ค้าได้ยื่นลูกชุบให้ฟรี 1 กล่อง แต่นายชัชชาติยืนยันที่จะจ่ายเงินให้โดยหยิบแบงก์ 500 บาทมาจ่าย พร้อมทั้งซื้อเนื้อย่างและยืนชิมหน้าร้าน
นายชัชชาติกล่าวกับแม่ค้าขายโคขุนเสียบไม้ ว่า “อื้ม อร่อย แต่มีมันหน่อยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปวิ่ง”
“นี่คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ” นายชัชชาติกล่าว
ต่อมานายชัชชาติยังได้แวะซื้อและแวะชิมเมนูอื่นๆ อาทิ ไข่นกกระทาทอด, อ้อยควั่น, ลอดช่องสิงคโปร์ เป็นต้น
จากนั้น นายชัชชาติได้เดินไปยืมเสื่อไวนิลกับทีมงาน แต่ไม่ต้องใช้บัตรประชาชนเป็นหลักประกัน โดยมีทีมงานคนหนึ่งแซวว่า คนนี้ใช้หน้าเป็นหลักประกัน
เวลา 21.28 น. นายชัชชาติได้มานั่งชมภาพยนตร์เรื่อง ‘แพรดำ’ ร่วมกับประชาชนคนอื่นๆ แต่นั่งชมได้เพียง 4 นาที ภาพยนตร์ก็จบพอดี
โดยวันพรุ่งนี้ นายชัชชาติมีกำหนดการผู้ว่าฯสัญจร ที่เขตบางบอน
