จ่อเสนอ ‘บิ๊กป้อม จัดตั้งศูนย์บริหารน้ำส่วนหน้า ที่อุบลฯ รับมือน้ำฝนถล่มอีสาน-กลาง

กอนช.ประเมินพื้นที่เสี่ยง เตรียมจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าภาคอีสาน-กลาง รับมือฝนเพิ่ม

เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานด้านประเมินสถานการณ์ กอนช. ครั้งที่ 3/2565 ว่าในช่วงวันที่ 5-10 กันยายนนี้ ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น

นายชยันต์กล่าวว่า กอนช.จึงได้มีการประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อประกอบการจัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงระหว่างวันที่ 6-12 กันยายนนี้ จะมีฝนตกหนักในบริเวณลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล ส่งผลให้มีโอกาสเกิดอุทกภัย และบริเวณท้ายน้ำที่เป็นจุดรวมของลุ่มน้ำชีและมูล ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญมีโอกาสเสี่ยงที่จะระบายน้ำไม่ทันจนอาจเกิดผลกระทบต่อประชาชน นอกจากนี้ ในพื้นที่ภาคกลางประเมินพบว่า ในช่วงวันที่ 6-9 กันยายนนี้ จะมีฝนตกหนักในบริเวณ จ.สุพรรณบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และ จ.สระบุรี ทำให้มีโอกาสจะเกิดอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าว เนื่องจากหลายพื้นที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ประกอบกับ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่ที่มีโบราณสถานซึ่งมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก

ดังนั้น กอนช.จึงเห็นชอบให้มีการตั้งคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง เพื่อเตรียมความพร้อม ติดตาม ประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์น้ำและอำนวยการหน่วยงานในพื้นที่บริหารจัดการมวลน้ำในช่วงฤดูฝนให้เกิดความเป็นเอกภาพจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และจะมีการเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. เพื่อให้ความเห็นชอบ ก่อนเร่งจัดตั้งศูนย์แห่งแรกที่ จ.อุบลราชธานี ในโอกาสต่อไป

“ปัจจุบันแหล่งน้ำทั่วประเทศมีปริมาณน้ำ รวม 52,165 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 64% ของความจุทั้งหมด โดยมากกว่าปีที่แล้ว 9,387 ล้าน ลบ.ม. โดยมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่ต้องเฝ้าระวังน้ำมาก จำนวน 7 แห่ง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 แห่ง ภาคตะวันออก 3 แห่ง และมีแหล่งน้ำขนาดกลางที่ต้องเฝ้าระวัง จำนวน 355 แห่ง ทั้งนี้ สทนช.ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ ได้คาดการณ์ฝนวันแมปล่วงหน้า พบว่าปีนี้ปริมาณฝนมีแนวโน้มมากกว่าค่าปกติ ซึ่ง กอนช.ได้เร่งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการน้ำในอ่าง รวมถึงการระบายน้ำเพื่อเตรียมพื้นที่รองรับฝนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด” นายชยันต์กล่าว

Advertisement

นายชยันต์กล่าวว่า ที่ผ่านมา กอนช.ได้ติดตามผลการดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในมาตรการที่ 6 ขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา ซึ่ง พล.อ.ประวิตรได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดผักตบชวาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำช่วงน้ำหลากตั้งแต่ช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูฝน พร้อมจัดกำลังพลสนับสนุนการปฏิบัติการเพื่อให้สามารถดำเนินการครอบคลุมทุกพื้นที่ได้โดยเร็วที่สุด โดย สทนช.ได้รายงานความก้าวหน้าปัจจุบัน พบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า การประปาส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมประมง และกรมทางหลวง มีการดำเนินการไปแล้วรวมประมาณเกือบ 7 ล้านตัน โดยมีการเร่งสำรวจและดำเนินการในทุกพื้นที่ อาทิ แม่น้ำสายหลักและสายรอง บึงขนาดใหญ่ต่างๆ โดย กอนช.จะมีการลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image