เข้าเค้า ชูวิทย์ ปูด หั่นอุทยานฯทับลานให้นายทุน 400 คดีรุกป่า ส่อหลุด

เข้าเค้า ชูวิทย์ ปูด หั่นอุทยานฯทับลานให้นายทุน 400 คดีรุกป่า ส่อหลุด

เข้าเค้าหลัง”ชูวิทย์” ปูดส่อหั่นอุทยานฯทับลานให้นายทุน รบ.จี้สางปมทับลานเหตุใกล้หมดอายุ “ดำรงค์”เผยพยายามทำมาตลอดดันใช้แผนที่”วันแม็ป” หวัง 400 กว่าคดีเนื้อที่ 2 แสนไร่พ้นเขตอุทยานฯ มีรีสอร์ตกำนันคนดังรวมอยู่ด้วย ด้าน “ปลัดทส.” ชี้ต้องว่าไปตามกฎหมายยกเลิกคดีไม่ได้

จากกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาเปิดเผยว่า ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการเซ็นคำสั่งปรับแนวเขตอุทยานฯ ทับลาน จ.ปราจีนบุรีและ นครราชสีมา เพื่อกันพื้นที่ให้รีสอร์ต และบ้านพักตากอากาศ 400 กว่าแห่งที่ถูกดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน โดยมีอดีตกำนัน ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งอยู่เบื้องหลังนั้น

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคโอกาสไทย ในฐานะอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า พอทราบข่าวที่นายชูวิทย์เปิดเผย ตนได้ตรวจสอบข้อมูลกับผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากตนเป็นคนนำปฏิบัติการตรวจยึดบ้านพักตากอากาศ และรีสอร์ต ที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน ในเขตอ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และอ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จำนวน 418 คดี ในช่วงปี 2554-2555 ในระหว่างเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ

“เชื่อว่ากรณีดังกล่าวไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นคดีไปหมดแล้ว โดยเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ประกาศทับเขตอุทยานฯ มีรีสอร์ตของกำนันคนดัง อยู่ในจำนวนนี้ด้วย เราต่อต้านมาตั้งแต่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอให้ใช้แนวเขตที่จัดทำเมื่อปี 2543 ตามแนวทางของผู้ประกอบการ รีสอร์ตและบ้านพักตากอากาศในพื้นที่ได้นำเสนอ เพราะหากใช้แผนที่ฉบับนี้ทั้ง 418 คดีที่จับกุมมา พื้นที่อุทยานฯ เนื้อที่กว่า 2 แสนไร่ต้องตัดออกหมด กันพื้นที่ออกไปแล้วก็จะบุกรุกต่อกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายอุทยานฯ ทับลานคงเหลือแต่แผนที่ “นายดำรงค์ กล่าว

Advertisement

นายดำรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทราบว่ามีความพยายามดำเนินการเรื่องนี้ โดยผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ซึ่งดูจะเร่งรีบนำเข้าสู่การพิจารณาจนผิดสังเกต และอาจจะมีเรื่องการเมืองเข้ามาแอบแฝง โดยพยายามนำเรื่องแนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4,000 (One Map) เข้ามาใช้ แต่ทั้งหมดจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งทราบว่าไม่ผ่านการพิจารณามา 3-4 ครั้งแล้ว ดังนั้นการจะทำเรื่องนี้จึงไม่ง่ายอย่างที่คิด

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า เมื่อต้นเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุม คทช. โดยทางนางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ขอจัดประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาอุทยานฯ ทับลาน ซึ่งเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ เพราะทั้งหมดต้องผ่านความเห็นจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติที่ต้องเข้าไปดู การจะตัดสินใจใช้แนวเขตใดนั้นต้องมีข้อมูลที่มากพอ และต้องรู้ว่าอะไรที่มันจะเป็นข้อดีข้อเสียไม่กระทบต่อคนมากที่สุด ซึ่งตนก็ได้ให้ข้อแนะนำไป โดยมีหลายหน่วยงานมาร่วมหารือกันทั้งกรมอุทยาน ฯ ส.ป.ก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ทาง สคทช.ต้องไปทำเอง เราไม่ได้ฟันธงว่าจะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ มันเป็นทั้งเรื่องของข้อกฎหมายและสิ่งที่จะกระทบกับพี่น้องประชาชน และกระทบกับสิ่งที่กรมอุทยานฯ เข้าไปดำเนินการด้วย จึงต้องมองในทุกมิติ ทั้งคน ทั้งข้อกฎหมายต่างๆ

นายจตุพร กล่าวว่า คทช.มีอำนาจในหลายอย่าง ทั้งในเรื่องแนวเขตที่ดิน การวางนโยบาย ไม่ใช่เรื่องเฉพาะการจัดที่ดินอย่างเดียว ส่วนวันแม็ปดำเนินการ 3-4 กลุ่มแล้ว แบ่งเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละ 10 กว่าจังหวัด กลุ่มไหนจัดเรียบร้อยก็เข้า ครม. และประกาศใช้ ขณะนี้ดำเนินการผ่านไป 2 กลุ่มแล้ว ในจังหวัดที่ไม่ค่อยปัญหา ทั้งนี้ต้องดูนโยบาย และมีเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอมา ต้องดูหลายมิติ การให้หรือไม่ให้ท้ายที่สุดที่ดินก็คือของหลวงอยู่ดี ส่วนที่เป็นคดีแล้ว ไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ใช่ไปยกเลิก ต้องว่ากันให้จบ ตนก็ไม่ยอมเหมือนกัน ต้องตรงไปตรงมา คดีก็ต้องเป็นคดี ไม่ใช่ว่าไปปรับแนวเขตแล้วคดีหลุด ไม่มี ต้องเข้มกว่าเดิมอีก ยิ่งเปลี่ยนสภาพที่ดินไม่ว่าประเภทไหนก็แล้วแต่ ๆ เป็นของหลวง ก็ต้องไปดูคุณสมบัติตรงนั้นให้ได้ ดังนั้นที่ดินของนายทุนจึงไม่ควรจะมีเลย

Advertisement

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คทช. โดยที่ประชุมฯ เห็นชอบต่อผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ในพื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ สระแก้ว สุรินทร์ อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ และเลย (ยกเว้นกรณีแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) และมอบหมายให้ สคทช. นำเรื่องให้ ครม.พิจารณาต่อไป

นอกจากนั้นที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี (กรณีเร่งด่วน) โดยเห็นชอบต่อผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กรณีอุทยานแห่งชาติทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน และให้ สคทช. นำเรื่องเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป โดยได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง และมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน รับเรื่องไปพิจารณา กรณีพื้นที่นอกแนวเขตที่กรมป่าไม้ส่งมอบให้ ส.ป.ก. (แต่อยู่ภายในเขตเส้นปรับปรุงปี พ.ศ. 2543) ว่าควรใช้แนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมอย่างไร และนำเรื่องเสนอ คทช. พิจารณา ก่อนนำเสนอ ครม. และแจ้งไปยังคณะอนุกรรมการวันแม็ปพิจารณาต่อไป

รายงานข่าวจากกรมอุทยานฯ แจ้งว่า ที่ผ่านมามีความพยายามจากหลายฝ่ายในการใช้กลไกของ สคทช. เพื่อผลักดันให้มีการประกาศใช้แผนที่วันแม็ป โดยยึดแนวเขตอุทยานฯ ที่รังวัดเมื่อปี 2543 ตามข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่จะทำให้พื้นที่อุทยานฯ ทับลาน 2 แสนไร่ ถูกกันออก ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 และกรมอุทยานฯ คัดค้านมาโดยตลอด ซึ่งการขับเคลื่อนประเด็นนี้ในช่วงเวลานี้ เนื่องจากใกล้ครบวาระรัฐบาล.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image