คดีสุดสะเทือนใจ พ่อแท้ๆ จับลูกสาววัย 14 ขังในบ้านแล้วลงมือข่มขืนบังคับถ่ายคลิปทำ OnlyFans ใช้ชื่อว่า “มิกิ สาวลูกครึ่งญี่ปุ่น” (ระงับแล้ว) ซ้ำยังตระเวนหาชายแปลกหน้ามาข่มขืนลูกและเมียตัวเองแบบ “ทรีซั่ม” กว่า 7 วัน 7 คืนเพื่อจะถ่ายคลิป 18+
เมื่อวันที่ 15 กันยายน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5, พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2, ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. กับพวกร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุม นายอนณ หรือนายทศกัณฑ์ หรือชื่อเจมส์ อายุ 32 ปี (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 หมายจับ ดังนี้
1.หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี จ.641/2567 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 67 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน”
2.หมายจับศาลแขวงปทุมวันที่ จ.114/2566 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 66 ข้อหา “ฉ้อโกง”
3.หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.365/2566 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 66 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
4.หมายจับศาลแขวงสมุทรปราการที่ จ.75/2566 ลงวันที่ 28 เมษายน 66 ข้อหา “ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คฯ”
โดยพบประวัติคดีอาญา 7 คดี ดังนี้ 1.วันที่ 21 มีนาคม 63 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” พื้นที่ สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร 2.วันที่ 16 กรกฎาคม 65 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พื้นที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 3.วันที่ 29 ธันวาคม 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกง” พื้นที่ สน.ปทุมวัน 4.วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” พื้นที่ สน.ทองหล่อ 5.วันที่ 30 มีนาคม 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คฯ” พื้นที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 6.วันที่ 7 เมษายน 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.หัวหมาก 7.วันที่ 31 กรกฎาคม 67 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน” พื้นที่ สภ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า พฤติการณ์กล่าวคือ “เรือนวิปริต” เด็กสาววัย 14 ปี นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ข้างเตียง โดยมีพ่อบังเกิดเกล้ากำลังตั้งกล้องเพื่อบันทึกภาพ ก่อนจับขังแล้วบังคับขืนใจเธอกว่า 7 วัน 7 คืน และเรื่องราวสุดวิปริตมากมายเกิดขึ้นในบ้านพักแห่งนี้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม-7 สิงหาคม 67 ทั้งนี้สืบเนื่องจากชุดสืบนครบาลได้สืบสวนติดตามตัว “เจมส์-ทศกัณฑ์” ซึ่งตระเวนก่อเหตุซ้อนแผนฉกโทรศัพท์อย่างแยบยลด้วยแผนประทุษกรรมการลวงให้ส่งของผ่านบริการรถรับจ้าง Grab แล้วใช้จังหวะช่องโหว่ลักโทรศัพท์เหยื่อเป็นจำนวนมาก โดยก่อเหตุลักษณะเดียวกันต่อเนื่องหลายคดีในพื้น สน.ปทุมวัน, สน.ทองหล่อ และ สน.หัวหมาก จนถูกออกหมายจับ
ระหว่างที่ชุดสืบนครบาลไล่ล่าติดตามจับกุมตัว ได้ไปพบกับบุตรสาวของคนร้ายวัย 14 ปี แล้วเรื่องราวสุดสะเทือนใจได้แดงขึ้น โดยเธอได้เล่าให้กับเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลฟังว่า “คนร้ายเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ โดยในห้วงปลายเดือนกรกฎาคม 67 ระหว่างที่เธอนั่งบนรถยนต์กับพ่อ พ่อได้ชักชวนเธอให้ทำหนังผู้ใหญ่ หรือที่เรียกว่า OnlyFans โดยได้พาเธอไปฉีดยาคุมที่คลินิกย่านทุ่งครุ ก่อนจะพาตัวเข้าไปในบ้านพักย่านคลองหลวง เธอพยายามขัดขืนแต่พ่อได้ข่มขู่พร้อมกับยึดโทรศัพท์ ก่อนจะขังเธอไว้ในบ้านพัก จากนั้นได้เริ่มลงมือข่มขืนเธอกว่า 7 วัน 7 คืน ซ้ำยังออกไปตระเวนหาคนเพื่อให้มาข่มขืนเธอเพื่อจะถ่ายคลิป 18+
และพ่อยังเรียกภรรยา (คนใหม่) พร้อมกับชายแปลกหน้าที่หามาให้มาร่วมถ่ายคลิปพร้อมกับเธอ เธอถูกกระทำชำเราทุกวันจนทนไม่ไหว จึงพยายามหลบหนีโดยสบโอกาสแอบเอาโทรศัพท์ทักไปบอกญาติแต่ถูกจับได้ ถูกลงมือทำร้ายตบตีและข่มขู่ท้าทายว่าไม่กลัวตำรวจ ถ้ามาจะเอาขวานฟันให้หัวแบะซึ่งสุดท้ายเธอสามารถออกจากบ้านมาได้จึงเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี
ล่าสุดศาลจังหวัดธัญบุรี ได้อนุมัติหมายจับแล้วในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน” แต่หลังจากเรื่องแดงขึ้นคนร้ายไหวตัว ทำลายหลักฐานถอดกล้องวงจรปิดในเรือนวิปริตก่อนหลบหนีออกนอกพื้นที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงส่งชุดสารวัตรแจ๊ะติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ จนได้เบาะแสว่าหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเช่าในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.เพชรบุรี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม โดยขณะจับกุมเจ้าตัวอยู่กับแฟนสาวภายในบ้านพัก คนร้ายทำท่าที “ดึงเข้ม” ใส่ชุดสืบสวน ปฏิเสธว่ามิได้ลงมือข่มขืนบุตรสาวตัวเองและมิได้ทำเว็บโป๊ แต่เมื่อเค้นสอบขยายผล จนได้ข้อมูลว่าคนร้ายรายนี้วางแผนกับแฟนสาวทำมิดีมิร้ายกับบุตรสาวจริง ไม่ว่าจะแอบวางยาและวางแผนการอื่นๆ และยังพบว่าคนร้ายเปิดเป็น Admin กลุ่มลับ “มิกิ” ไลฟ์สดโป๊เปลือยแนววิปริต โดยตระเวนให้แฟนของตัวเองไปนอนกับชายอื่นแล้วถ่ายไลฟ์สดจำนวนมาก และที่ทำให้อึ้งเพราะชุดสืบสวนพบแชตการวางแผนของคนร้ายที่จะให้ชายอื่น “มามีเพศสัมพันธ์กับบุตรสาวตัวเอง” และยังพบหลักฐานการ “แบล๊กเมล์” หลอกให้เด็กสาววัย 15 ปี ถ่ายเรือนร่างแล้วขู่เอาเงินเป็นจำนวน 5,000 บาท
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวอีกว่า ชั้นจับกุม นายอนณ หรือ “เจมส์ทศกัณฑ์” ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองไม่ได้ทำหนังโป๊” แต่ที่ตำรวจพบคือการไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนที่บุตรสาวแท้ๆ ของตนไปแจ้งความเพราะว่าตนไม่ยอมซื้อโทรศัพท์ไอโฟนให้ลูก ลูกเลยไปแจ้งความดำเนินคดี ส่วนที่ย้ายที่อยู่บ่อยๆ ไม่ได้เป็นการหลบหนี แต่เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายจึงเปลี่ยนที่อยู่ ยอมรับว่าทำคลิปโป๊จริง โดยจะให้แฟนคนปัจจุบันเป็นนักแสดงหลัก ตระเวนหาชายอื่นและโลเกชั่นอื่นๆ เพื่อถ่ายทำ บางครั้งก็ให้ชายแปลกหน้า 2 คน มามีเพศสัมพันธ์กับแฟนตัวเอง โดยยอมรับว่าเป็นรสนิยมทั้งตนและแฟน แต่ยังปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเช่นนี้กับบุตรสาวตัวเอง เป็นเพราะเด็กกุเรื่องขึ้นมาเอง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากการขยายผลพบพยานหลักฐานสอดคล้องไปทางคำให้การของฝ่ายผู้เสียหาย อีกทั้งยังพบหลักฐานการทำลายพยานหลักฐานและการหลบหนีของผู้ต้องหา และยังพบพยานหลักฐานที่เป็นความผิดอีกหลายข้อหา โดยยังพบว่ามีเด็กสาววัย 15 ปี กำลังตกเป็นเหยื่อการแบล๊กเมล์ของคนร้ายอีกด้วย ซึ่งเราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด และจะมีการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหารายนี้ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตร.ปคบ.ลุยค้น 3 จุด บ้าน-บริษัท ‘แม่ตั๊ก ป๋าเบียร์’ ยึดรถหรู ‘ลัมโบร์กินี -ปอร์เช่’
- เชฟอ้อย รับ หมุนเงินไม่ทัน ถูกคดียักยอกเพชร เผยหลังออกโหนกระแส ลูกค้าแฟรนไชส์หาย
- รวบเชฟอ้อย คนดัง กลางห้าง ยักยอกเพชร เหยื่อโร่แจ้งจับ สูญ2ล้าน
- ยอดดับสะสม 52 ราย กระทบกว่า 6 หมื่นครัวเรือน ปภ.รายงานท่วมหนัก 19 จังหวัด เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน