ว่าที่ทูตเมียนมาซาบซึ้งน้ำพระทัยในหลวง พิพัฒน์เผยเตรียมจี้นายจ้างจ่ายชดเชยแรงงานประสบเหตุแผ่นดินไหว

ว่าที่ทูตเมียนมาซาบซึ้งน้ำพระทัยในหลวง พิพัฒน์เผยเตรียมจี้นายจ้างจ่ายชดเชยแรงงานประสบเหตุแผ่นดินไหว

เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงานให้การต้อนรับ นายอู ซอ ซอ โซ (U Zaw Zaw Soe) ว่าที่เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย พร้อมคณะฯ ในโอกาสเข้าพบเพื่อรับมอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 2 ล้านบาท พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ น้ำหนักรวมกว่า 12,675 กิโลกรัม ได้แก่ ปลากระป๋อง 220 ลัง (3,410 กิโลกรัม) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (3,470 กิโลกรัม) ข้าวสาร 15 กิโลกรัม จำนวน 54 ถุง (812 กิโลกรัม) น้ำดื่ม 727 แพ็ก รวมกว่า 4,200 ลิตร เครื่องดื่ม ขนม เวชภัณฑ์ และยาสามัญประจำบ้าน เพื่อส่งต่อให้แรงงานชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้กระทรวงแรงงานได้ทำการมอบของเพื่อช่วยเหลือให้กับประเทศเมียนมาที่ประสบอุบัติภัยแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้เมียนมาได้รับความเสียหายในหลายเมืองสำคัญ รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับกระทรวงแรงงาน ให้การสนับสนุนช่วยเหลือได้ก็ให้รีบดำเนินการ โดยกระทรวงแรงงานและผู้บริหารทุกคน ได้มีการขอรับบริจาคไปยังผู้ประกอบการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือกันบริจาคสิ่งของอาหารและน้ำดื่ม เงินสดให้กับประเทศเมียนมา จำนวน 2 ล้านบาท รวมถึงสิ่งของต่างๆ จะนำส่งไปยังประเทศเมียนมาผ่านทางกองทัพของไทย โดยว่าเอกอัคราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยที่เพิ่งมารับตำแหน่งยังไม่เป็นทางการได้เป็นตัวแทนในการรับบริจาคจากกระทรวงแรงงานในวันนี้

ADVERTISMENT

นานพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการเยียวยาเหตุแผ่นดินไหวในประเทศไทย จากที่ได้รับรายงานเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่า มีผู้เสียชีวิต 15 ราย โดยกองทุนเงินทดแทนจะช่วยเหลือในเรื่องเงินรักษาพยาบาลสูงสุด 1 ล้านบาทต่อผู้ที่บาดเจ็บ ในส่วนแรงงานที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย ผ่านการลงทะเบียนกับกรมการจัดหางาน และหากเสียชีวิต กองทุนเงินทดแทนก็จะเข้าไปดูแลเช่นเดียวกัน โดยจะได้รับเงินทดแทนต่างหากเป็นรายเดือนสูงสุดเดือนละ 14,000 บาท และหากพบว่าแรงงานทุพพลภาพ จะได้รับเงินทดแทนตลอดชีวิตเทียบเท่ากับเสียชีวิตหรือประมาณ 170,000 บาท และได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท โดยในส่วนของทายาทจะได้รับ รับเงินทดแทนร้อยละ 70 ของค่าจ้าง นาน 10 ปี และเงินบำเหน็จชราภาพตามเงื่อนไขของกองทุนประกันสังคม

ADVERTISMENT

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ส่วนของแรงงานที่เข้ามาแล้ว ถูกนายจ้างจ้างงานและยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานที่ถูกต้องกระทรวงแรงงานจะดำเนินการฟ้องไล่เบี้ยกับนายจ้าง เพื่อนำเงินมามอบเป็นสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างจะได้รับให้แก่ญาติของผู้ป่วยและผู้สูญเสีย

“ในส่วนของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) จะดำเนินการดูแลให้ลูกจ้างทุกคนได้รับสิทธิตามกฏหมายแรงงาน อาทิ ค่าจ้างที่ค้างจ่าย ค่าล่วงเวลาต่างๆ ซึ่งในส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุกระทรวงแรงงานก็จะเข้าไปดูแลลูกจ้างทุกคนอย่างแน่นอน พร้อมฝากไปยังญาติผู้ป่วยผู้บาดเจ็บหรือผู้สูญเสียให้สบายใจได้ว่าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากกระทรวงแรงงาน” นายพิพัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการดำเนินการเยียวยาให้แก่ แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว จะสามารถดำเนินการได้เมื่อใด นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานจะเข้าไปให้การช่วยเหลือ เมื่อมีการพิสูจน์อัตลักษณ์และดีเอ็นเอเรียบร้อยแล้ว หรือ ญาติสามารถระบุอัตลักษณ์ได้ และนำเอกสารหลักฐานมายืนยันกระทรวงแรงงานก็จะดำเนินการทันที โดยในส่วนของคนไทย กระทรวงแรงงานจะหารถในการนำส่งร่างกลับสู่ภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีตามศาสนา และดำเนินการมาตรการเยียวยาช่วยเหลือแรงงานต่อไป

นายอู ซอ ซอ โซ (U Zaw Zaw Soe) กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใยแรงงานเมียนมาในยามวิกฤตนี้ และว่า ขอบคุณรัฐบาลไทย รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ได้ทำการบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคในครั้งนี้ เพราะภัยพิบัติในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี ส่งผลให้มีความเสียหายกระจายไปหลายเมืองและมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2,700 คน มีผู้สูญหายและบาดเจ็บกว่า 3,000 ราย ซึ่งขณะนี้เมียนมาอยู่ระหว่างการค้นหาผู้สูญหาย

“สำหรับของที่ได้รับบริจาคจะเตรียมการนำขึ้นเครื่องไปส่งยังเมียนมา และในฐานะประชาชนเมียนมาขอกราบขอบคุณรัฐบาลจะจดจำเป็นที่ระลึกในสิ่งที่เกิดขึ้น และจะรายงานความห่วงใยจากรัฐมนตรีพิพัฒน์ไปยังรัฐบาลเมียนมา” นายอู ซอ ซอ โซ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image