2 วันอันตรายดับรับสงกรานต์ 59 ราย เจ็บ 458 คน กทม.แชมป์ กำชับใช้ กม.เข้มข้น
เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 ประจำวันที่ 13 เมษายน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 เป็นวันที่สองของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ 248 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 257 คน ผู้เสียชีวิต 30 ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 39.92 ดื่มแล้วขับ 22.18 และตัดหน้ากระชั้นชิด 20.97 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.77 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 83.87 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.32 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 33.87 ถนนกรมทางหลวงชนบท ร้อยละ 11.29 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 15.01-18.00 น. เวลา 18.01-21.00 น. และเวลา 06.01-09.00 น. ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 19.86 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,756 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 50,689 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ มุกดาหาร (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ มุกดาหารและลำพูน (จังหวัดละ 13 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (4 ราย)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (11-12 เมษายน) เกิดอุบัติเหตุรวม 460 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 458 คน ผู้เสียชีวิต รวม 59 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 44 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ มุกดาหาร (23 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ มุกดาหาร (25 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (9 ราย)
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า จากสถิติสะสม 2 วันชี้ให้เห็นว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน 2 อันดับแรก คือการขับรถเร็วเกินกำหนดและการดื่มแล้วขับ จึงขอให้จังหวัดบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ในการปฏิบัติงาน เพิ่มความละเอียดในการตรวจตราเพื่อป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยง อาทิ ขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่สวมใส่อุปกรณ์นิรภัย ดูแลการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยไม่จำหน่ายให้เด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีโดยเด็ดขาด
“หากพบการจำหน่ายในลักษณะเร่ขายในบริเวณที่มีการจัดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ (Zoning) สถานที่ท่องเที่ยว และบริเวณที่มีการจัดงานรื่นเริง ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ความสำคัญกับการควบคุมและดูแลสถานบริการให้เปิด-ปิดตามเวลาที่กฎหมายกำหนด เพิ่มความเข้มข้นของด่านชุมชนและการใช้หน่วยเคลื่อนที่เร็วในการเฝ้าระวัง ตรวจตรา ป้องปราม รวมถึงตักเตือนผู้ทำพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ไม่ปลอดภัย การดื่มแล้วขับ การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย การโดยสารท้ายกระบะอย่างไม่ปลอดภัย ก่อนออกจากพื้นที่ชุมชนหรือหมู่บ้าน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ ให้จังหวัดเตรียมความพร้อมของระบบสื่อสารและการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ เพื่อประสานการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอำนวยความสะดวกให้รถพยาบาลและรถฉุกเฉินให้เข้าถึงจุดเกิดเหตุและส่งตัวผู้ประสบเหตุไปยังโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว”
ขณะที่ นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 กล่าวว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการพฤติกรรมเสี่ยงทั้งของผู้ขับขี่เองและผู้ร่วมใช้เส้นทาง ศปถ. จึงให้ความสำคัญกับสร้างจิตสำนึก และความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และขอเน้นย้ำให้จังหวัดสื่อสารประชาสัมพันธ์ผ่านทุกสื่อทุกช่องทางที่จังหวัดมีในการประชาสัมพันธ์อันตรายจากการทำพฤติกรรมเสี่ยงและวิธีการขับขี่ปลอดภัย โดยเน้นเรื่องการขับขี่อย่างมีสติ การเคารพกฎจราจร การใช้อุปกรณ์นิรภัยในการเดินทาง รวมถึงการเล่นสงกรานต์อย่างปลอดภัยตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของไทย และการไม่เล่นน้ำในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น เพื่อสร้างจิตสำนึกและเชิญชวนประชาชนเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน
ด้าน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี พ.ศ.2568 กล่าวว่า วันนี้เป็นวันมหาสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนจะออกมาเล่นน้ำสงกรานต์จำนวนมาก มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสังสรรค์ รวมถึงออกมาอยู่บนท้องถนนเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์และสัญจรไปยังท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ตรวจเช็กความพร้อมของยานพาหนะ ศึกษาเส้นทางล่วงหน้า และเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยความระมัดระวัง ไม่สาดน้ำใส่รถจักรยานยนต์โดยตรงเนื่องจากอาจทำให้รถเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุ ไม่เล่นน้ำกลางถนนเนื่องจากอาจถูกรถเฉี่ยวชนได้ หากเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงการนั่ง หรือยืนท้ายกระบะเล่นน้ำสงกรานต์ เนื่องจากอาจเกิดอุบัติเหตุจากการพลัดตก
นายภาสกร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศซึ่งเป็นประเด็นที่ ศปถ.มีความห่วงใย เนื่องจากหน่วยงานด้านการพยากรณ์อากาศได้คาดหมายสภาพอากาศในวันที่ 13-14 เมษายน หลายพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร มีแนวโน้มเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าฝ่า โดยขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ไม่อยู่ในที่โล่งแจ้งและใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่อยู่ใกล้สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขึ้น