สคบ. ชวนดูข้อกำหนดธุรกิจปล่อยเงินกู้ ผู้บริโภคเช็กเลยตรงตามหรือไม่

สคบ. ชวนดูข้อกำหนดธุรกิจปล่อยเงินกู้ ผู้บริโภคเช็กเลยตรงตามหรือไม่

เมื่อวันที่ 15 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มีการสรุปสาระสำคัญการประกอบธุรกิจกู้ยืมเงินเพื่อผู้บริโภคเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้กู้ยืมเงินเพื่อผู้บริโภคเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2565

(1) การคิดดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และผู้ประกอบธุรกิจต้องแสดงวิธีการคิดคำนวณแนบท้ายสัญญาด้วย

(2) ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการทวงถามหนี้ โดยผู้ให้กู้เรียกเก็บได้ ตามอัตราที่กฎหมายว่าด้วยการทวงถามหนี้กำหนด และต้องมีเอกสารหลักฐาน การทวงถามหนี้ให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบได้

(3) ผู้ให้กู้สามารถปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยได้ แต่การ เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยใด ๆ ผู้ให้กู้ต้องแจ้งให้ผู้กู้ทุกรายทราบเป็นหนังสือโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับให้ผู้กู้ทราบก่อนล่วงหน้า เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน ในกรณีเร่งด่วนให้แจ้งทางจดหมายหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือ ประกาศทางหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทยที่แพร่หลาย และแจ้งเป็นหนังสือซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ถึงผู้กู้ทุกรายทราบ แต่หากผู้กู้มีความประสงค์จะรับเป็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ประกอบธุรกิจสามารถแจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ได้

ADVERTISMENT

(4) กรณีข้อสัญญาที่ผู้ให้กู้มีสิทธิบอกเลิกสัญญาจะต้องเป็น ตัวอักษรสีแดงหรือตัวสีดำหนาหรือตัวเอนหรือขีดเส้นใต้ หรือโดยประการอื่นที่เห็นเด่นชัดกว่าข้อความทั่วไป และก่อนบอกเลิกสัญญาต้องแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้กู้ ไม่น้อยกว่า 30 วัน เพื่อให้ผู้กู้แก้ไขการผิดสัญญาดังกล่าว และหากไม่แก้ไขผู้ให้กู้มีสิทธิบอกเลิกสัญญากู้ยืมเงินได้

(5) สิทธิในการจำหน่ายหรือการโอนสิทธิเรียกร้องในสัญญา กู้ยืมเงิน ผู้ให้กู้และผู้รับโอนสิทธิต้องแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้กู้และผู้ค้าประกัน (ถ้ามี) ทราบล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 1 งวด

ADVERTISMENT

(6) หากผู้กู้จะชำระหนี้ทั้งหมดในคราวเดียว ผู้ให้กู้ต้องไม่คิดดอกเบี้ยเงินกู้ที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระตามสัญญา และให้คืนทรัพย์หลักประกันหรือสิ่งยึดหน่วง (ถ้ามี) ให้แก่ผู้กู้หรือผู้ค้ำประกัน แล้วแต่กรณี ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ ผู้ให้กู้ได้รับชำระหนี้ครบถ้วน ทั้งนี้ ให้จัดทำตารางแสดงภาระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินด้วย

(7) กรณีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กู้ หากนำข้อมูลนั้นไปเปิดเผยให้บุคคลที่สาม ผู้ให้กู้จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้กู้ โดยผู้กู้มีสิทธิจะให้ความยินยอมหรือไม่ก็ได้ ตามเงื่อนไขที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

(8) กรณีสัญญากู้ยืมเงินกำหนดให้ผู้กู้ต้องจัดหาผู้ค้ำประกันการกู้ยืมเงิน ผู้ให้กู้ต้องตกลงกับผู้กู้ว่าจะจัดให้มีการทำสัญญาค้ำประกัน ซึ่งมีคำเตือนสำหรับผู้ค้ำประกันไว้หน้าสัญญาค้ำประกันนั้น ตามแบบคำเตือนแนบท้ายสัญญา

ผู้ประกอบธุรกิจห้ามใช้ข้อสัญญา

1. จำกัดความรับผิดจากการผิดสัญญา
2.ให้สิทธิผู้ประกอบธุรกิจบอกเลิกสัญญาโดยผู้บริโภคไม่ได้สัญญา
3. บอกเลิกสัญญาผู้บริโภคโดยไม่ต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือ
4. สามารถเปลี่ยนค่าบริการ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้
5. กำหนดต้องทำกรมธรรม์ประกันชีวิต ยกเว้นการกู้ยืมเงินที่มีทรัพย์สินเป็นหลักประกัน โดยผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่ต้องส่งมอบสัญญาให้กับผู้บริโภค หากเป็นการกู้ยืมเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแฟลตฟอร์มดิจิทัลเป็นคนกลาง ให้ผู้ให้กู้ต้องส่งมอบสัญญาและปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ ได้ที่ สายด่วน สคบ. 1166 หรือสามารถร้องทุกข์ ได้ทาง www.ocpb.go.th และทางแอพพลิเคชัน OCPB Connect

สคบ.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image