ชัชชาติร่วมซุ่มซูม ยันต้องช่วย 50 คนที่เหลือ กลับบ้านให้ได้

ชัชชาติร่วมซุ่มซูม ยันต้องช่วย 50 คนที่เหลือ กลับบ้านให้ได้

เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่บริเวณโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เฝ้าติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างใกล้ชิด ซึ่งจนถึงปัจจุบันมียอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 44 คน บาดเจ็บ 9 คน และสูญหาย 50 คน

โดย สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) ได้เผยแพร่ภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ ระหว่างทำการส่องกล้องเพื่อค้นหาสัญญาณชีพ หรือร่างของประสบภัยที่ติดอยู่ภายในอาคาร ในปฏิบัติการค้นหาผู้ติดค้างใต้ซากอาคารสตง. โดยมีทีมโดรนที่คอยบินมอนิเตอร์ภาพทุกจุด ตลอด 24 ชม.

พร้อมระบุข้อความด้วยว่า

ADVERTISMENT

“นี่คือเหล่าพลพรรคสไนเปอร์ Sniper (คนแรกเราขอยกให้เป็นสไนเปอร์กิติมศักดิ์)

ที่นี่ เราไม่ใช่หน่วยซุ่มยิง แต่เป็นหน่วยซูม ที่คอยสอดส่องวัตถุต้องสงสัย อาวุธคู่กายคือกล้องส่องทางไกล บวกกับสายตาที่มุ่งมั่น และขยันสังเกต“

ADVERTISMENT

”หากพบเห็นสิ่งผิดปกติระหว่างที่เครื่องจักรหนักทำงาน ซึ่งอาจเป็นชิ้นส่วนอวัยวะ อุปกรณ์ช่าง ท่อน้ำดับเพลิง ต้องแจ้งให้หยุดเครื่องจักรหนัก แล้วส่งทีม search ไปตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังมีทีมโดรนที่จะเฝ้า Monitor ทุกจุด ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย”

“พวกเราจะช่วยกันพาคนที่อยู่ใต้ซากนั้นอีก 50 คนออกมา ให้สมบูรณ์ที่สุด เท่าที่จะทำได้”

ผู้สื่อข่าวรายงารว่า นายชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม. ได้กล่าวขณะเผยแพร่ภาพสดด้วยว่า ล่าสุด ได้ใช้เครื่องจักรหนัก ขุดสกัดคอนกรีตและตัดเหล็กเส้นเปิดโดยรอบซากอาคารพร้อมกันทั้ง 4 โซนแล้ว ถ้าหากพบร่าง ชิ้นส่วนอวัยวะ หรือสัญญาณชีพ จะหยุดเครื่องจักรและให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตัดเหล็ก ขุดและย้ายร่างเพื่อนำส่งนิติเวชต่อไป โดยทำไปพร้อมๆ กับขนย้ายเศษเหล็กและเศษวัสดุออกจากพื้นที่ไปควบคู่กัน ต่อเนื่องไปถึงช่วงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 15 เม.ย. ก่อนที่จะให้ทีมค้นหารวมทั้ง K9 เข้าพื้นที่เพื่อทำการค้นหาร่างอวัยวะและทรัพย์สินทั่วพื้นที่อีกครั้ง

“เวลาคนขับรถแบ๊กโฮ พบร่าง ก็จะให้หยุดเพื่อให้ทีมขึ้นไปดูก่อน ซึ่งถือว่าตาไวมาก แล้วจากนั้นเราเอาโดรนขึ้นไปบินสำรวจข้างบนว่าเห็นอะไรที่ปลายตัวแจ๊คแฮมเมอร์ ซึ่งผมเองก็คอยสังเกตอยู่ด้วย คือเราจะไม่ปล่อยให้ร่างของเขาไปกับซากปรักหักพัง เราต้องเอาร่างทุกคนกลับบ้านให้ได้ นั่นคือความตั่งใจของทีมงาน”

“ตอนนี้คนขับแบ๊กโฮ เบอร์ 10 ขาลุยของเรา ที่ค้นหาเจอหลายร่าง ก็ได้ลุยขึ้นไปถึงยอดกองแล้ว ซึ่งเราเองก็ได้บอกให้แจกวอ (วิทยุสื่อสาร) ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน ก็ต้องบอกกว่างานนี้ เป็นงานละเอียด บางทีเรากะเวลาไม่ได้ เพราะว่าถ้าเราเปิดพื้นที่ไปเจอเคสปุ๊บ ก็ต้องนำร่างออกมาก่อน จุดที่เราคาดการณ์ไว้คือ ‘ปลายเดือนเมษายน’ ซึ่งก็แล้วแต่สถานการณ์หน้างานด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องพยายามดูให้ละเอียดทุกเคส ดูทั้งงานหนักและงานละเอียดอ่อนควบคู่กันไปดังนั้น หลักการทำงานเราคือ เจอปุ๊บก็ต้องหยุด”

“ขณะเดียวกัน ‘โดรน’ ก็เข้ามาบินสังเกตด้วย จะเห็นว่ามีการทำงานร่วมกันหลายด้าน ซึ่งโดรนจะเห็นภาพชัดกว่าเพราะสามารถซูมดูได้ถึงระหว่างช่องเหล็ก จะเข้ามามาร์กพิกัดเป็น GPS แบบ 3 มิติเลยว่า จุดที่พบอยู่ตรงไหน ซึ่งจะมีเลเซอร์ช่วยพ้อยท์ให้ แล้วคนก็จะขึ้นไปดูตรงจุดนั้น คอยมอนิเตอร์ เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่อีกที” นายชัชชาติกล่าว และว่า

เราก็คอยสแตนบายอยู่ข้างๆ ทุกคนก็รอคำสั่ง ทำงานกันเป็นทีม โดยจะมีเต็นท์อยู่ข้างๆ ของทีม ปภ. ร่วมกับทีม USAR เข้าไปประเมินสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร ใช่คนหรือเปล่า จะต้องรื้ออะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นำออกมายากหรือไม่ หลังจากนี้ทาง กทม.ก็จะนำข้อมูลไปประเมินว่า ควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า ขออย่ากดดันคนทำงาน ต้องให้เขาดำเนินการไปตามวิชาชีพ ปัญหาที่พบตอนนี้คือ ‘เรื่องเหล็ก’ เหล็กเหนียว ปลายยึดอยู่กับคอนกรีตด้านใน ทำให้ดึงออกมาได้ยาก

“ตัวผมเองตัดสินใจแทนไม่ได้ ก็มาช่วยซัพพอร์ตกันว่าขาดเหลืออะไรไหม ต้องการอะไรเพิ่มเติม คอยเป็นกองหนุนให้เขา ถ้าเราเข้าใจก็จะรับรู้สถานการณ์ได้ดีขึ้น ทุกคนปิดทองหลังพระ มาร่วมใจกัน“ นายชัชชาติกล่าว

ทั้งนี้ ความคืบหน้าสถานการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่อาคาร สตง. ประจำวันที่ 15 เมษายน เวลา 16.00 น. ผู้ประสบภัย 103 ราย เสียชีวิต 44 ราย บาดเจ็บ 9 ราย ติดค้าง 50 ราย สามารถลดความสูงได้ประมาณ 1 เมตร

เครื่องจักรจะเข้าขนย้ายเศษปูนที่โซน A , B และ C ถ้าหากพบสิ่งที่ระบุเพื่อเป็นข้อมูลเชื่อมโยง เช่น เครื่องแบบ พวงกุญแจ ฯลฯ ที่ติดกับร่าง หรือบริเวณใกล้เคียง ก็จะบันทึกข้อมูลและแจ้งศูนย์ควบคุม (SCC) เพื่อให้ทีม DVI (Disaster Victim Identification) พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ก่อนส่งให้ทีมวิเคราะห์ข้อมูล USAR ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจ คือ ST 2, ทางเชื่อมอาคาร และ ST1

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image