เมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่กองปราบปราม และ สน.ปทุมวัน บุกเข้าตรวจค้นสถานบริการแห่งหนึ่งไม่มีชื่อ ในโรงแรมทองพูน ถนนพระราม 6 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. หลังจากสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มนักเที่ยวลักลอบมั่วสุมเสพยาเสพติด และเปิดให้บริการเกินเวลาตามกฎหมายกำหนด
จากการตรวจสอบพบว่า มีนักเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั้งชาย-หญิง จำนวนกว่า 250 คน จึงทำการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย และตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด และตรวจทะเบียนประวัติหมายจับ
พ.ต.อ.ธงชัยเปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่าสถานที่แห่งนี้มีการบอกต่อกันในกลุ่มนักเที่ยวว่ามีสถานบันเทิง ที่เรียกกันว่า “สวิง” เปิดให้บริการจนถึงเช้า จึงนำกำลังมาเฝ้าสังเกตการณ์พบว่า มีกลุ่มนักเที่ยวทยอยเข้ามาใช้บริการตั้งแต่ช่วงเวลา 4 นาฬิกา หลังสถานบริการแห่งอื่นๆ ปิด ส่วนผลการตรวจค้นในเบื้องต้นพบมียาเคตามีน ยาไอซ์จำนวนหนึ่งและอาวุธปืนพก 1 กระบอกในกลุ่มนักเที่ยว และพบว่ามีผลตรวจปัสสาวะสีม่วง กว่า 28 ราย
ด้าน พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.ปทุมวัน กล่าวว่า จากการสอบสวน นายภาณุพงษ์ ตาหนองแห้ว ที่รับเป็นผู้จัดการ รับว่าเปิดสถานบริการแห่งนี้มาได้ 7 เดือนแล้ว เดิมทีตั้งใจจะเปิดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น และยืนยันว่ามีใบอนุญาตถูกต้อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องรอตรวจสอบเอกสารที่นำมาแสดงก่อน เบื้องต้นดำเนินคดีในความผิดฐานลักลอบเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเปิดเกินเวลา กับผู้จัดการของร้าน ซึ่งหากการสอบสวนเสร็จสิ้นเร็ว คาดว่าในวันนี้จะส่งไปดำเนินคดีที่ศาลแขวงปทุมวันต่อไปได้ ส่วนกลุ่มนักเที่ยวที่พบมีปัสสาวะสีม่วง จะมีการแยกดำเนินคดี และส่งตัวอย่างสารเสพติดให้กองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบต่อไป
ต่อมาพ.ต.อ.ภพธร กล่าวว่าเจ้าของอ้างว่า มีใบอนุญาตถูกต้อง ทั้งที่มีหนังสือคำสั่งให้ปิดสถานบริการ จากการตรวจสอบและสอบสวนเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าวล่าสุดใรยอมรับว่าไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบันเทิงที่ถูกต้อง แต่ให้การในช่วงแรก เพราะเข้าใจผิดว่าขอดูใบอนุญาตประเภทอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหา คือ เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนผู้ต้องหาซึ่งเป็นนักเที่ยวที่ตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วง มีส่วนหนึ่งสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจึงติดต่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป.ป.ส กรุงเทพฯ รับตัวไปรบำบัด ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือไม่ประสงค์จะเข้ารับการบำบัด เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวไปที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจสารเสพติดอย่างละเอียดก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมา ที่ สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายภาณุพงษ์ ตาหนองแห้ว อายุ 49 ปี รับเป็นผู้จัดการร้าน แจ้งข้อหา “ลักลอบเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและเปิดเกินเวลา” ส่วนอาวุธปืนที่พบ เป็นของนายมานพ โพธิ์ระมาด อายุ 48 ปี ตรวจสอบปืนมีทะเบียนถูกต้อง แต่ไม่มีใบพกพา ให้การว่า มาเที่ยวและรู้จักทางร้านจึงนำมาฝากร้านไว้ แจ้งข้อหา “พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาติ” สำหรับนักเที่ยวรับว่าเสพยาและสมัครใจบำบัด รวม 14 ราย ปฏิเสธ 16 ราย ในจำนวนนี้มีต่างชาติ 5 รายเป็นชาวลาว ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย แทนซาเนีย และรัสเซีย นำตัวส่งตรวจ รพ.ตร. ช่วงอายุนักเที่ยว ระหว่าง 25-50 ปี ไม่พบเยาวชน
รายงานข่าว สถานบริการดังกล่าว เคยถูกสั่งปิด เนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย เมื่อเดือนเมษายน โดยรู้จักกันในกลุ่มนักเที่ยว ชื่อเดิม “สไปซี่” ซึ่งมี “เสี่ยสมดี” เป็นเจ้าของ ก่อนจะพบว่ากลับมาลักลอบเปิดให้บริการอีกครั้งในชื่อ “สวิง” เมื่อช่วง 1-2 เดือน กระทั่งเจ้าหน้าที่บูรณาการกำลัง บก.ป. และสน.ปทุมวัน จับกุม
