กคช.เปิดตัวศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยฯ แบบครบวงจร มุ่งสู่ ไทยแลนด์ 4.0

เมื่อวันที่ 5 เมษายน พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เป็นประธานเปิดศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริการงานขาย เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลการพัฒนาที่อยู่อาศัยและบริการงานขายแบบวันสต๊อปเซอร์วิส พร้อมทั้งมอบกุญแจให้กับผู้เข้าร่วมโครงการบ้านแลกบ้าน โดยมี นายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ คณะผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ ผู้แทนผู้อยู่อาศัยในเคหะชุมชนดินแดง และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมให้การต้อนรับ ณ อาคารศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริการงานขาย ซอยประชาสงเคราะห์ 37 ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ

พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และคนพิการ มีโอกาสเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มั่นคงได้มาตรฐาน และมีสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่เหมาะสม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคมภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) โดยมีวิสัยทัศน์คือ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2579 ” กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง โดยการเคหะแห่งชาติ ต้องการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริการงานขาย เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ผ่านนวัตกรรมของที่อยู่อาศัยในด้านการก่อสร้าง การออกแบบ การตลาด การเงิน การจัดการสิ่งแวดล้อม ฯลฯ รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติได้โดยง่าย จึงได้ประสานงานมายังกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อขอใช้อาคารจำหน่ายผลิตภัณฑ์โครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ห้วยขวาง มาปรับปรุงพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารให้ทันสมัย จัดตั้งเป็นศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริการงานขาย เนื่องจากอยู่ในทำเลที่ตั้งแหล่งชุมชนและสะดวกต่อการเดินทาง ซึ่งกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเห็นควรให้การเคหะแห่งชาติได้ใช้อาคารแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนต่อไป

ดร.ธัชพล กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริการงานขายว่า ต้องการปรับภาพลักษณ์องค์กรให้ทันสมัยเป็นการเคหะแห่งชาติ 4.0 “โปร่งใส ทันสมัย ใส่ใจประชาชน” สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลซึ่งจะขับเคลื่อนประเทศโดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ประกอบกับแผนยุทธศาสตร์ของการเคหะแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2564 ยุทธศาสตร์ที่ 3 เพิ่มศักยภาพในการตอบสนองลูกค้ากลุ่มใหม่ ขยายฐานลูกค้าและตลาด จึงมีแนวคิดจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริการงานขาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้านที่อยู่อาศัย ได้อย่างเท่าเทียมกันแบบครบวงจร โดยจัดสรรพื้นที่ออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 พื้นที่บริการงานขายแบบวันสต๊อปเซอร์วิส ซึ่งประชาชนสามารถเลือกชมโครงการและทำเลที่สนใจผ่านระบบการให้บริการค้นหาบ้านว่างพร้อมขาย และจองบ้านออนไลน์ ผ่าน http://house.nha.co.th รวมทั้งวางเงินจองและทำสัญญาได้ทันที ส่วนที่ 2 พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ งานวิจัย เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยที่เกี่ยวข้อง เช่น งานวิจัยบ้านผู้สูงอายุ บ้านประหยัดพลังงาน แบบจำลองสารสนเทศอาคาร ระบบก่อสร้างชิ้นส่วนสำเร็จรูป และโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชน ดินแดง ส่วนที่ 3 พื้นที่จัดแสดงห้องตัวอย่างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 1 อาคารแปลง G ขนาดพื้นที่ห้อง 33 ตารางเมตร ประกอบด้วย ห้องนอน พื้นที่เอนกประสงค์ ส่วนทำอาหาร และห้องน้ำ ส่วนที่ 4 ห้องประชุมสัมมนา สามารถรองรับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ 60 – 80 คน ซึ่งจะเป็นที่แถลงข่าวการดำเนินงานต่างๆ ของ การเคหะแห่งชาติ รวมทั้งรายงานผลดัชนีเศรษฐกิจชุมชนของการเคหะแห่งชาติเป็นประจำทุกเดือน ส่วนที่ 5 ที่ทำการสำนักงานเคหะชุมชนห้วยขวาง และส่วนที่ 6 พื้นที่ส่วนบริการร้านค้าและร้านอาหาร ซึ่งการเคหะแห่งชาติจะเปิดให้บริการทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2561 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.

นอกจากนี้ ภายในพิธีเปิดศูนย์นวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัยและบริการงานขาย การเคหะแห่งชาติยังได้มอบกุญแจให้กับผู้เข้าร่วมโครงการบ้านแลกบ้าน จำนวน 3 ราย ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็น 1 ใน 9 ของขวัญปีใหม่ ก้าวไปกับ “พม.” เพื่อเป็นของขวัญมอบความสุขให้กับคนไทยในปี 2561 โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าเก่ามายื่นความจำนงแลกเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบ้านใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าหรือมีราคาสูงกว่า ซึ่งต้องเป็นโครงการที่มีสัญญาจอง/สัญญาจะซื้อจะขายกับการเคหะแห่งชาติในโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง หรือลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติและส่งมอบโครงการแล้ว เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการบ้านแลกบ้าน จำนวน 131 ราย ดำเนินการแลกบ้านไปแล้วจำนวน 20 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 111 ราย และยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าของการเคหะแห่งชาติที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้อย่างต่อเนื่อง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมคอลเซ็นเตอร์ 1615 และ www.nha.co.th

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image