กทม.จัดงบซื้อ ‘ถังดับเพลิง’ ล็อตใหญ่กลางปี’61 คิวอาร์โค้ดระบุรายละเอียดผู้จัดซื้อ แก้ปัญหาตัวถังไร้คุณภาพ

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงผลหลังเป็นประธานประชุมรับมอบนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินการป้องกันและระงับอัคคีภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งมี หัวหน้าฝ่ายปกครอง 50 เขตและหัวหน้าสถานีดับเพลิงทุกแห่งร่วมประชุม ว่า จากการสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยสำนักพัฒนาสังคม พบความต้องการอันดับแรกๆ ของประชาชนคือ ต้องการให้กทม.จัดซื้อถังดับเพลิงเพิ่มเติมสำหรับแจกจ่ายชุมชน เพราะครั้งล่าสุดกทม.เคยจัดซื้อถังดับเพลิงล็อตใหญ่แจกจ่ายประชาชนเมื่อปลายปี 2554 ซึ่งเป็นเวลานานแล้วและเกินอายุใช้งาน 5 ปี จึงนำประเด็นดังกล่าวเสนอต่อ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. โดยผู้ว่าฯกทม.บอกว่าจะจัดซื้อทั้งทีก็ให้จัดซื้อถังดับเพลิงให้ครอบคลุม ทั้งวัดและโรงเรียนด้วย โดยจะให้หัวหน้าฝ่ายปกครองและหัวดับเพลิงสำรวจพื้นที่ว่ามีความต้องการมากน้อยเพียงใด ก่อนรวบรวมเป็นตัวเลขในการจัดซื้อถังดับเพลิงต่อไป คาดเบื้องต้นกทม.ต้องจัดซื้อถังดับเพลิงหลายหมื่นถัง เพราะมีชุมชน วัดและโรงเรียนจำนวนมาก คาดใช้งบประมาณกลางปี 2561

“ส่วนกรณีเดิมเมื่อปี 2554 การจัดซื้อถังดับเพลิงไม่มีคุณภาพนั้น ผมได้ย้ำให้ทุกต้องมีคุณภาพ ขณะเดียวกัน นายวันชัย ถนอมศักดิ์ รองปลัดกทม.เสนอไอเดียติดคิวอาร์โค้ดที่ตัวถังดับเพลิง เพื่อให้ตรวจสอบผู้จัดซื้อถังดับเพลิง ความพร้อมและอายุการใช้งาน เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจะทราบถึงแหล่งที่มาได้ รวมถึงให้ฝ่ายปกครองพูดคุยกับหัวหน้าสถานีดับเพลิงเพื่อจัดหาจุดเหมาะสมสำหรับการติดตั้งถังดับเพลิงในชุมชน อาทิ พื้นที่สาธารณะชุมชน เพื่อป้องกันการนำถังดับเพลิงไปใช้ส่วนตัว นอกจากนี้ ยังได้ตั้งงบประมาณ 25 ล้านบาท สำหรับการอบรมสำหรับประชาชนในการใช้งานอุปกรณ์และความรู้การดับเพลิงเบื้องต้น แบ่งเป็น 20 รุ่น จำนวนรุ่นละ 100 คนด้วย” นายสกลธี กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.เทวานุวัฒน์ อนิรุทธเทวา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารภัย กทม. กล่าวว่า สำหรับราคาถังดับเพลิงชนิดเคมีแห้ง (ถังสีแดง) จะใช้ดับเพลิงประเภท A จะเป็นเพลิงที่เกิดจากของแข็ง กระดาษ ไม้ ผ้า พลาสติดและยาง และประเภท B เกิดจากน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้ม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 ต่อถัง ส่วนถังดับเพลิงเคมีสูตรน้ำ (ถังสีเขียว) จะใช้ดับไฟทุกประเภท ครอบคลุมประเภท C เกิดจากอุปกรณ์เกิดจากไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ และ ประเภท K เกิดจากน้ำมันเคี้ยวหนักหรือน้ำมันพืช ราคาประมาณ 4,000 บาท โดยการจัดซื้อจะต้องขึ้นอยู่กับภาวะแวดล้อม แต่สำหรับชุมชนเหมาะกับถังดับเพลิงสีแดง

Advertisement

ทั้งนี้ หากสำรวจพบถังดับที่หมดอายุให้งดนำมาใช้งาน จากนั้นให้เก็บและทำเรื่องจำหน่าย โดยในอนาคตจะขยายการติดตั้งถังดับเพลิงไปยังศาสนสถานอื่น เช่น มัสยิด และโบสถ์ ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image