“ธัญญา”ส่งโฆษกฯแจงงบเพาะกล้าไม้ ยันอธิบดี-รมว.ปี53สั่งด้วยวาจา บรรเทาวิกฤตโลกร้อน

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานฯ แถลงถึงกรณีนายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดทส. สั่งสอบสวนนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่ากรมป่าไม้ เมื่อปี 2553 โดยโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณบุคลากรไปเพาะชำกล้าไม้ 53 ล้านกล้า และมีการเรียกเงินทอนร้อยละ 50

นายสมโภชน์ กล่าวว่า ในปี 2553 นายธัญญา ซึ่งเป็น ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่าในขณะนั้น ได้รับการประสานทางวาจาจากอธิบดีกรมป่าไม้ให้หากล้าไม้เพื่อใช้ในโครงการบรรเทาวิกฤตโลกร้อนเฉลิมพระเกียรติฯ รวม 84 ล้านกล้า แต่งบจัดสรรการเพาะชำกล้าไม้ไม่เพียงพอ จึงได้เสนอให้มีการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย ซึ่งอำนาจในการอนุมัติเพื่อโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ เป็นอำนาจของอธิบดีกรมป่าไม้ในขณะนั้น ส่วนนายธัญญา เป็นเพียงผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า เมื่อได้รับข้อสั่งการจากท่านอธิบดีฯ จึงได้ดำเนินการเสนอหนังสือตามขั้นตอนของทางราชการเท่านั้น โดยการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าวให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการ ทั้งสิ้น 221 หน่วยงาน เพาะชำกล้าไม้ทั่วไป จำนวน 51,192,000 ต้น เพาะชำกล้าไม้ใหญ่ 972,300 ต้น รวมงบประมาณทั้งสิ้น 103,716,100 บาท

“ขอยืนยันว่าการอนุมัติโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพาะชำกล้าไม้เป็นอำนาจของอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งนายธัญญา ไม่มีอำนาจในการอนุมัติแต่ประการใด” นายสมโภชน์ กล่าว

โฆษกกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่มีการร้องเรียนก็เป็นเพียงประเด็นที่ระบุไว้ในหนังสือร้องเรียนเท่านั้นแต่เมื่อมีการร้องเรียนเกิดขึ้นทางปลัดทส. ก็ต้องมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ซึ่งประเด็นการจัดหาเมล็ดไม้ก็ได้ดำเนินการจัดหาจากแหล่งที่มีเมล็ดไม้ค้างปีเทคนิคการเพาะชำในช่วงฤดูฝนก็สามารถใช้โรงเรือนที่มีหลังคาแบบระบบปิด ซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้เป็นปกติในทุกฤดูกาลสามารถป้องกันน้ำฝนที่อาจก่อให้เกิดเชื้อรากับเมล็ดไม้ หรือทำให้กล้าไม้รากเน่า และกล้าไม้ที่เพาะก็ใช้สำหรับแจกจ่ายในปีถัดไปไม่ได้ถูกกำหนดให้แจกจ่ายให้หมดภายในระยะเวลา 1 เดือนตามที่เป็นข่าว แต่อย่างไรก็ตามหากปลัดทส.เห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบในเรื่องนี้ นายธัญญา ได้ชี้แจงว่า พร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบ เนื่องจากมั่นใจว่ากระบวนการทุกอย่างได้ดำเนินการโดยสุจริต โปร่งใส และถูกต้องตามขั้นตอน และขอเรียนยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าว่า ไม่มีการทุจริตเงินทอนตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน

Advertisement

เมื่อถามต่อว่ากล้าไม้จำนวน 53 ล้านกล้า ทุกวันนี้ไปอยู่ที่ไหน โฆษกกรมอุทยานฯ กล่าวว่า เรื่องแปลงที่นำไปปลูกกับต้นไม้ที่เหลือรอดชีวิต เป็นเรื่องของกรมป่าไม้ที่จะต้องนำไปประเมิน เพราะในช่วงที่นายธัญญา เป็น ผู้อำนวยการสำนักฯ ได้กระจายงบประมาณ 103 ไปให้กับ 221 หน่วยงานภาคสนาม ซึ่งก็เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนกล้าไม้จะนำไปแจกจริงหรือไม่ บัญชีคนที่มารับกล้าไม้ระยะเวลาในการปลูก จำนวนคนงานที่มารับงานเพาะกล้าไม้ ต้องไปตรวจสอบกับกรมป่าไม้ อย่างไรก็ตามตนมองว่าการที่ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ให้ตรวจสอบถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้หน่วยงานมีความโปร่งใสและตัวนายธัญญาก็มีความยินดีที่จะให้ตรวจสอบ

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตรวจสอบการทุจริตกล้าไม้ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเบื้องต้นตนจะขอตรวจสอบข้อสั่งการของนายวิจารย์ก่อน จากนั้นจึงจะดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี

รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดหากล้าไม้ตามโครงการบรรเทาวิกฤตโลกร้อนเฉลิมพระเกียรติฯดั เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มีนายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นรัฐมนตรีทส.และนายสมชัย เพียรสถาพร เป็นอธิบดีกรมป่าไม้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image