นักศึกษาแพทย์ยอมลาออกก่อนครบทุนปีละ 600 คน ที่ประชุมร่วมฯจ่อเพิ่มค่าปรับ 5 ล้านดึงอยู่ในระบบ

จากกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีการประชุมโครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทยปี 2561-2562 ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และมีมติยืนยันการผลิตแพทย์เพิ่มปีละ 3,000 คนต่อไป ร่วมถึงมีการเสนอแก้ไขสัญญาเพิ่มค่าปรับจาก 4 แสนบาทเป็น 5 ล้านบาท หากแพทย์ไม่ไปใช้ทุนในโรงพยาบาลนั้น

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน  พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในการแก้ไขสัญญาเพื่อเพิ่มค่าปรับนั้น สธ.มีการทบทวนแนวคิดมาโดยตลอด และมีการทำตัวเลขร่วมกับการคำนวณจากค่าใช้จ่ายและฐานต้นทุนในการผลิตแพทย์แต่ละคน จนทำให้ได้ตัวเลขอยู่ที่ 5 ล้านบาท และได้นำมาเสนอในที่ประชุมโครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทยปี 2561-2562 อย่างไรก็ตามการปรับสัญญาเพื่อเพิ่มค่าปรับนั้น ไม่ใช่เพราะต้องการเงิน แต่ต้องการให้มีแพทย์อยู่ในระบบและเพียงพอ เพราะค่าปรับเดิมจำนวน 4 แสนบาทนั้นแพทย์หลายคนสามารถจ่ายได้ทันที แลกกับการไม่ต้องไปใช้ทุน

“ในแต่ละปีจะมีแพทย์มาจับฉลากเพื่อเลือกพื้นที่ไปใช้ทุนประมาณ 600 คน ซึ่งในจำนวนนี้ เมื่อทราบว่าได้พื้นที่ใด และไม่ประสงค์ที่จะลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้ ก็จะทำการลาออกทันที ซึ่งจะมีประมาณ10-20 คนส่วนแพทย์ที่อยู่ใช้ทุนไม่ถึง 3 ปีและขอลาออกนั้นจะมีจำนวนอยู่ที่ 500-600 คนต่อปี  ดังนั้นการเพิ่มค่าปรับเป็น 5 ล้านบาท อาจเป็นอีกแนวทางในการทำให้แพทย์อยู่ในระบบ ซึ่งคาดว่าจะปรับได้ในปี 2562 แต่ตัวเลขก็ยังไม่นิ่ง อาจจะน้อยกว่านั้นก็ได้ ที่สำคัญขอย้ำว่า การเสนอตัวเลขค่าปรับก็ไม่ใช่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ แต่เป็นเรื่องของการประชุมโครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทย ซึ่งร่วมกันหลายส่วนไม่ใช่ของสธ. ” รองปลัดสธ. กล่าว

พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ที่ผ่านมาการผลิตแพทย์ของประเทศไทยจะมีทั้งหมด 4 ส่วน คือ 1.การผลิตแพทย์ในระบบปกติ  2.การผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชนบท 3.การผลิตจากภาคเอกชน และ 4.นักเรียนไทยที่ไปจบแพทย์จากต่างประเทศ ทั้งนี้ ในอดีตการผลิตแพทย์ในระบบปกติไม่เพียงพอ จึงมีโครงการผลิตแพทย์เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งสองส่วนนี้รัฐบาลอุดหนุนงบประมาณหรือลงทุนในการเรียน  จึงต้องมีการมาใช้ทุนหลังเรียนจบในโรงพยาบาลของหน่วยราชการต่างๆ ซึ่งโดยหลักแล้วมักเป็นของ สธ. ขณะที่แพทย์ที่ผลิตเพิ่มเพื่่อชนบท ก็จะกลับไปใช้ทุนในพื้นที่บ้านเกิดของตนเอง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image