‘เฮลท์แคร์ 2018’ ครบเครื่อง‘สุขภาพตา’ ประสบความสำเร็จแง่ชีวิตมนุษย์ สนองนโยบายรัฐ 4.0

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่เพลนารีฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีการจัดงานเฮลท์แคร์ 2018 “สายตาดีมีสุข” มหกรรมสุขภาพที่จัดต่อเนื่องมาเป็นเวลา 1 ทศวรรษ โดยครั้งนี้ทางเครือบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำ องค์กรจากภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), รพ.บ้านแพ้ว (องค์การมหาชน), ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน), รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา รวมทั้งหน่วยงานและธุรกิจด้านสุขภาพ ตลอดจนสถานพยาบาลชั้นนำที่คอยให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานวันสุดท้ายยังคงมีผู้ให้ความสนใจทยอยเข้าร่วมมากมาย โดยผู้ร่วมงานส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ไปจนถึงวัยทำงาน รวมทั้งมากันเป็นครอบครัว ซึ่งในวันนี้มีประชาชนเข้ามาใช้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตั้งแต่เช้า อาทิ จุดบริการรักษาฟันของคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีประชาชนมารับบัตรคิวเต็มจำนวนตั้งแต่ช่วงเช้า เป็นต้น

นายสุรพล พิยาสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เผยว่า การจัดงานเฮลท์แคร์ 2018 ของมติชนได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 แล้ว ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในธีม “สายตาดีมีสุข” สืบเนื่องมาจากประเทศไทยมีภาวะเสี่ยงเกี่ยวกับการเป็นโรคทางสายตาเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งโรคนี้สามารถเป็นได้ทุกเพศ ทุกวัย และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นด้วย ทางมติชนจึงอยากสร้างความตระหนักเกี่ยวกับโรคตาให้มากยิ่งขึ้น จึงได้ร่วมมือกับหน่วยแพทย์ทั้ง 23 โรงพยาบาล ทั้งที่เกี่ยวกับโรคสายตา โรคอื่นๆ และในด้านของโภชนาการต่างๆ เข้ามาช่วยทำการรักษาในเบื้องต้นให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน เพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคม ทำให้ประชาชนในประเทศมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ยังมีบูธอาหารเสริมและการบริการในด้านต่างๆ คอยให้บริการอีกกว่า 200 บูธ

Advertisement

นายสุรพลกล่าวว่า ปีนี้ที่จัดงานในธีมเกี่ยวกับสายตา เพราะอยากให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยได้มาตรวจรักษาฟรี เช่น รพ.บ้านแพ้ว ที่ให้ประชาชนได้มาตรวจสายตาว่ามีความเสี่ยงเป็นต้อกระจกหรือไม่ หากพบต้อกระจกก็จะทำการผ่าตัดรักษาต่อไป ซึ่งในครั้งนี้บ้านแพ้วจัดทำโครงการผ่าตัดต้อกระจกฟรี 100 ราย แต่มีประชาชนในกรุงเทพฯบางส่วนได้ไปทำการตรวจรักษาก่อนแล้ว ครั้งนี้เลยมีผู้ที่ผ่านเกณฑ์แค่ 5 คน ซึ่งนอกจากจะมีการตรวจสุขภาพด้านตาแล้ว เรายังเห็นความสำคัญในโรคอื่นๆ เช่นกัน อาทิ การตรวจมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่ จากมูลนิธิถันยรักษ์ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นการตรวจที่มีค่าใช้จ่ายสูง แต่นำมาตรวจให้ผู้ร่วมงานฟรี ส่วนกลุ่มเป้าหมาย หากเทียบกับธีมงานปีที่แล้ว ปีนี้ถือว่าเปิดรับกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มคนสูงวัยที่มาเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้กลุ่มวัยรุ่น หรือวัยทำงานก็สามารถเข้าร่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการออกกำลังกาย หรือบูธของ รพ.กรุงเทพ ที่มาการสอนและสาธิตการทำ CPR หรือการปั๊มหัวใจที่ถูกวิธี บูธของกินของใช้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นประโยชน์ต่อคนทุกวัย

“ช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงานวันละกว่าหมื่นคน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วเป็นเท่าตัว จะเห็นได้ว่าจากภาพรวมทั้งคนมาร่วมงาน ทั้งพันธมิตรทั้ง 23 โรงพยาบาลที่ตอบรับเข้ามา ถือว่างานในปีที่ 10 นี้ เป็นงานที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากในทุกปีที่ผ่านมาจะมีโรงพยาบาลเข้าร่วมประมาณปีละ 16 โรงพยาบาลเท่านั้น ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่ของชีวิตมนุษย์ เป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล 4.0 และเป็นการร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขที่จะลดจำนวนประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วย หรือส่วนของการประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการชี้ช่องทางในการรักษา ครั้งนี้จึงอยากจะขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขและทุกหน่วยงานที่ให้ความสนับสนุนที่ดีมาโดยตลอด สิ่งนี้ถือเป็นแรงผลักดันที่จะทำให้เราทำงานที่ดีอย่างนี้ต่อไปในปีหน้า” นายสุรพลกล่าวปิดท้าย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image