เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์สาทร นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี นายอาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการบีทีเอสซี และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บีทีเอสซี ร่วมแถลงกรณีรถไฟฟ้าบีทีเอสให้บริการขัดข้องพร้อมแสดงความรับผิดชอบต่อผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ และประกาศมาตรการรับมือหากเกิดปัญหาซึ่งไม่ใช่เหตุสุดวิสัยในอนาคต
นายคีรี แถลงว่า เรื่องที่จะทำให้ผู้โดยสารเดินทางไม่สะดวกนั้น ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และสิ่งที่เกิดขึ้นมองว่าไม่ควรจะเป็นความผิดของใคร ทุกฝ่ายต่างทำหน้าที่ บีทีเอสเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขนาดนี้ ที่สำคัญไม่มีใครอยากเห็นระบบขนส่งมวลชนหลักระบบหนึ่งของกรุงเทพมหานคร เกิดผลกระทบต่อประชาชนทำให้เสียเวลาไปมาก แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นที่รถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่ง 19 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีกรณีแบบนี้มาก่อน ก็ต้องรับผิดชอบแน่นอน แล้วต้องทำให้ดีที่สุด
“ย้ำอีกทีว่ามันไม่ได้มาจากรถ แต่อาจมาจากอะไรสักอย่างที่ 19 ปีที่ผ่านมา เราไม่เคยเจอ ผมก็ไม่ได้บอกว่ามัน 100% แต่ผมบอกว่า ที่เราติดตั้งเข้าไปมันต้องใช้เวลาจูนให้เข้าที่ และอีก 3 หน่วยงานอย่าง ทีโอที ดีแทค และ กสทช. ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ขอความกรุณาท่านให้เข้าใจเราบ้าง การลงทุนธุรกิจนี้ 20 กว่าปีที่แล้ว อาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็ได้ แต่ก็ดีใจที่ทุกวันนี้มันเป็นระบบที่ช่วยแก้ไขปัญหาจราจรได้จริงๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องขออภัยทุกคนจริงๆ ส่วนมาตรการรองรับผู้โดยสารที่ประสบเหตุรถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้อง เราอาจเป็นสายแรกในหลายประเทศที่มีมาตรการดูแลที่ชัดเจน” นายคีรี กล่าว
นอกจากนี้ นายคีรี ยังแถลงถึงปรากฏการณ์ทางโซเชียลมีเดียที่มีการต่อว่าบีทีเอสอย่างรุนแรงว่า เข้าใจดี ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่อยากกลับบ้าน อยากไปทำงานให้ตรงเวลา
“สำหรับตรงนี้ผมต้องขออภัยจริงๆ กับคนที่บอกว่าทำไมคุณขี้เหนียวเหลือเกิน อยากได้กำไรมากๆ ใช่ไหม ในฐานะที่เป็น บริษัทมหาชน อันนั้นเป็นภารกิจ เป็นความจริง แต่ผมไม่ได้ต้องการให้ผู้ถือหุ้นมีกำไรมากๆ อย่างเดียว อันนั้นไม่ใช่สันดานผม” นายคีรี กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความหนาแน่นในระบบราง หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส คือ ปัญหาคอขวดบริเวณสถานีสะพานตากสิน บีทีเอสพยายามแก้ไขปัญหาร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ขณะนี้อยู่ระหว่างทำแผนแก้ไขปัญหาคอขวด เพราะแม้ว่ามีรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แต่หากปัญหาคอขวดยังไม่ถูกแก้ไข ก็ต้องใช้เวลารอเปลี่ยนขบวนเหมือนเดิม
นายคีรี แถลงต่อไปว่า ว่าการตัดสินใจลงทุนรถไฟฟ้าบีทีเอสเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา อาจเป็นความผิดพลาดของตนเองที่ตัดสินใจลงทุน
“คราวนี้เรายอมรับว่ามันรุนแรง แต่อย่าให้บริษัทรับทุกอย่าง การลงทุนรถไฟฟ้า ความจริงผมไม่อยากกลับไปพูดเรื่อง 20 ปีที่แล้ว มันไม่ใช่การลงทุนที่คุ้ม 100% แต่เป็นความที่ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กทม.ไม่ได้ให้อะไรผมสักบาท ถ้าผมรู้เท่าถึงการณ์ ผมคงไม่ลงทุนครับ แต่มาถึงวันนี้แล้ว บริษัทแข็งแรงแล้ว ก็จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่พยายามจะลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่อไป” นายคีรี กล่าว
