‘หมอบุญเรือง’ ไอเดียเก๋ ‘สวมหมวกกันน็อกแจกไข่ฟรี’ ลดอุบัติเหตุนักบิด-คนซ้อน

เมื่อวันที่ 12 เมษายน น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ลงพื้นที่ที่ด่านชุมชนประจำแยกปู่โพธิ์ ถ.ติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ที่ปฏิบัติงานรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร” ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2559 พร้อมทั้งยังแจกไข่ต้ม ให้แก่ผู้ขับขี่ที่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร โดยเฉพาะผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ที่สวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย จำนวน 500 ฟอง พร้อมเอกสารคำแนะการใช้รถใช้ถนนด้วย

น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า สำหรับนโยบายแจกไข่ไก่ต้มประมาณ 20,000 ฟอง ซึ่งไข่เป็นสัญลักษณ์ของสุขภาพ เริ่มเป็นปีแรกเพื่อรณรงค์กระตุ้นการสร้างวินัยจราจร และจิตสำนึกด้านความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นพาหนะที่ใช้มากที่สุด 20 ล้านกว่าคัน เป็นต้นเหตุสำคัญการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร โดยให้สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขตในสังกัดกรมฯที่มี 12 เขตทั่วประเทศ อาทิ เชียงใหม่ นครราชสีมา อุบลราชธานี ราชบุรี สงขลา ชลบุรี เป็นต้น ดำเนินการแจกเขตละประมาณ 500-1,000 ฟอง ที่ด่านชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบเขตละ 5-8 จังหวัด ซึ่ง สบส.ได้ส่ง อสม.ร่วมปฏิบัติงานที่ด่านชุมชนวันละไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน ผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ว่าเป็นคนขับหรือคนซ้อนที่ใส่หมวกนิรภัย จะได้รับไข่ต้มฟรีคนละ 1 ฟอง หากไม่สวมจะได้รับการตักเตือนและคำแนะนำแทน

นพ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดี สบส.กล่าวว่า หมวกกันน็อก เป็นอุปกรณ์ลดความเสี่ยง และความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศีรษะลงได้ร้อยละ 72 ลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 39 ผลสำรวจอัตราการใช้หมวกกันน็อกของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย โดยมูลนิธิไทยโรดส์และเครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนในปี 2557 พบผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 42 ผู้ขับใช้ร้อยละ 51 ผู้ซ้อนท้ายใช้เพียงร้อยละ 19 กลุ่มวัยรุ่นใช้เฉลี่ยเพียงร้อยละ 24 น้อยกว่าผู้ใหญ่เกือบ 2 เท่าตัว

นพ.ภัทรพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ คนขับในเขตเมืองสวมหมวกกันน็อกร้อยละ 81 ส่วนในชนบทใช้เพียงร้อยละ 35 ขณะเดียวกันข้อมูล 7 วัน เทศกาลสงกรานต์ในปี 2558 พบผู้เสียชีวิตร้อยละ 64 เป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และไม่สวมหมวกกันน็อกประมาณร้อยละ 26  ส่วนกลุ่มผู้บาดเจ็บเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82 ไม่สวมหมวกกันน็อกเกือบร้อยละ 30 ที่สำคัญทั้งผู้เสียชีวิตและผู้เสียชีวิต เป็นคนในพื้นที่ตำบลหรือแขวงมากกว่าคนนอกพื้นที่ถึง 2-3 เท่าตัว

Advertisement

DSC_0231

DSC_0054

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image