หลังเกิดอุบัติเหตุกรณีอุบัติเหตุเรือล่มจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในพื้นที่ จ.ภูเก็ต รวม 3 ลำ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 แม้อีก 2 ลำ จะรอดชีวิตทุกคน แต่สำหรับเรือท่องเที่ยว ฟีนิกซ์ พีซีไดฟ์วิ่ง นั้น พบว่ามีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยตัวเลขล่าสุดจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บ 11 ราย และสูญหาย 15 ราย
ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) แสดงความคิดเห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นภัยพิบัติที่ไม่มีใครคาดคิด ดังนั้นสิ่งที่จะสามารถป้องกันได้ในเบื้องต้น คือ ทุกคนควรเรียนรู้วิธีในการเอาตัวรอดจากการจมน้ำ ทั้งการเรียนรู้หลักในการว่ายน้ำและทักษะในการเอาชีวิตรอดในน้ำ, รู้จักวิธีการร้องขอความช่วยเหลือ เช่น การโบกมือขึ้นลงเหนือศีรษะให้คนอื่นรู้ว่ากำลังประสบภัย การตะโกน และ รู้จักวิธีการลอยตัวอยู่ในน้ำ เช่น การฝึกลอยตัวแบบนอนหงาย ขาแขนเหยียดตรงเหมือนนอนอยู่บนที่นอน เงยหน้ายกคางเพื่อใช้ปากหายใจ และที่สำคัญคือ ต้องมีสติไม่ตกใจ นอกจากนี้ ผู้พบเห็นยังต้องรู้จักวิธีการขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ด้วยการโทรแจ้งไปที่สายด่วน 1669 ด้วย
ร.อ.นพ.อัจฉริยะ กล่าวว่า สำหรับประชาชนทั่วไปที่พบเห็นผู้ป่วยฉุกเฉินจากการจมน้ำ และต้องการเข้าให้ความช่วยเหลือ ในเบื้องต้นผู้เข้าให้การช่วยเหลือจะต้องคำนึงถึงถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นสำคัญก่อน เพราะบ่อยครั้งที่คนช่วยก็ได้รับอันตรายจากการช่วยเหลือด้วย โดยวิธีที่ถูกต้องในการช่วยคนขึ้นจากน้ำ ประกอบด้วย “ตะโกน โยน ยื่น” อย่างแรก คือ “ตะโกน” บอกให้คนตกน้ำอย่าตกใจ จากนั้นหาวัสดุลอยน้ำ “โยน” ให้ผู้ที่ตกน้ำเกาะพยุงตัว และ “ยื่น” อุปกรณ์ หรือหาสิ่งของให้ผู้ที่ตกน้ำจับเพื่อลากเข้าฝั่ง ไม่ควรกระโดดลงไปช่วย เพราะผู้ที่จมน้ำจะมีอาการตกใจ กอดรัด และทำให้จมน้ำไปด้วยกันทั้งคู่ นอกจากนี้ จะต้องประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของน้ำด้วย โดยเฉพาะในทะเลที่มีคลื่นลมแรง
“สำหรับเสื้อชูชีพที่ใช้ตามเรือท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ยังเป็นแบบเสื้อพยุงตัว ไม่ใช่เสื้อชูชีพแท้ ที่ออกแบบไว้ให้นอนหงายตลอดเวลา และการใส่เสื้อชูชีพจะต้องใส่ให้ถูกต้อง รัดตัวล็อกทุกจุด มิเช่นนั้นเสื้อชูชีพอาจหลุดได้ ทั้งนี้ เสื้อชูชีพจะสามารถพยุงตัวผู้ประสบเหตุได้ 3-6 ชั่วโมง แต่หากเป็นเสื้อชูชีพคุณภาพดีจะสามารถลอยตัวได้นานเป็นวัน แต่ที่สำคัญคือ ต้องมีสติ พยายามช่วยตัวเองให้ลอยตามน้ำให้ได้ อย่าพยายามว่ายเข้าฝั่ง เพราะอาจทำให้หมดแรง ควรตะโกนให้คนช่วย หรือเป่านกหวีดที่ติดมากับชูชีพ” เลขาธิการ สพฉ.กล่าว
นอกจากนี้ ร.อ.นพ.อัจฉริยะ ยังบอกถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุดว่า หากช่วยเหลือผู้ประสบเหตุขึ้นมาได้ อันดับแรกคือ ให้รีบโทรแจ้งไปที่สายด่วน 1669 หากผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำซีพีอาร์ (CPR) หรือกดนวดหัวใจช่วยฟื้นคืนชีพ ตามคำแนะนำของผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ ส่วนผู้ป่วยที่ยังหายใจได้เอง หรือช่วยเหลือจนหายใจได้แล้ว ควรจับผู้ป่วยนอนตะแคงข้าง ศีรษะหงายไปข้างหลัง เพื่อเปิดทางเดินหายใจ และใช้ผ้าห่มคลุมผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความอบอุ่น
ขอบคุณภาพประกอบจาก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
