เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วย นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 15 ภายใต้หัวข้อหลัก “โลกมั่นใจ สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย”
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ภายในงานจะมีกิจกรรมเด่นมากมาย ทั้งการพัฒนายาจากสมุนไพร ทดแทนยาแผนปัจจุบัน วิจัยพัฒนาและสร้างนวัตกรรมด้านสมุนไพร เช่น การวิจัยทางคลินิกมะระขี้นก ที่พบว่าสามารถชะลอการเพิ่มน้ำตาลสะสม ส่งเสริมให้ประชาชนพึ่งตนเองด้วยสมุนไพร มีการจัดสวนสมุนไพร 100 ชนิด มีการสอน สาธิตการทำผลิตภัณฑ์แก่ประชาชน และแจกหนังสือวันละ 200 เล่ม ทางด้านองค์การเภสัชกรรม ปีนี้มีการนำเสนอความก้าวหน้าการทำสารสกัดจากสมุนไพรสู่การใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอแนวทางการพัฒนากัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการจัดงานครั้งนี้ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 กรกฎาคม 2561 ที่ อิมแพค เมืองทองธานี
นพ.นำพล กล่าวว่า งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ปีนี้จะมีความพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากเป็นวาระครบ 100 ปีการสาธารณสุขไทย ที่ได้ให้การดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนมา เช่นเดียวกับอภัยภูเบศร ที่ได้ยืนหยัดนำองค์ความรู้ภูมิปัญญารุ่นปู่ย่าตาทวดกลับมารับใช้สังคมกว่า 35 ปีแล้ว โดยในปีนี้ได้หยิบยกการดูแลสุขภาพของคนทุกวัย ตามทฤษฏีการแพทย์แผนไทยที่แบ่งคนเป็น 3 วัย ได้แก่ วัยเด็ก ที่มักพบว่าจะป่วยด้วยอาการหวัด ไอ ท้องอืด ควรใช้สมุนไพรที่มีรสอุ่น เช่น กะเพรา ขิง หัวหอมแดง หรือดีปลี ตำรับยาที่เข้าการบูร และมะขามป้อมที่มีรสเปรี้ยวฝาดช่วยบรรเทาอาการไอ บำรุงปอด
ส่วนในวัยทำงาน เป็นช่วงวัยที่มีความร้อนสูง มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และมีความเครียด มักป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับความร้อน ควรใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็น และช่วยผ่อนคลายได้ เช่น มะลิ บัวบก คุณนายตื่นสาย ปัญหาปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ควรใช้สมุนไพรเถาวัลย์เปรียง กระดูกไก่ดำ และปัญหาผิวสิว ฝ้า ใช้สมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์จากมังคุด หรือเซรั่มจากประดู่ทุ่งที่เราพัฒนาพบว่าช่วยลดปัญหาคนเป็นฝ้าได้
นพ.นำพล กล่าวต่อว่า สำหรับในวัยผู้สูงอายุ มีโอกาสที่จะเกิดโรคเกี่ยวกับระบบประสาทได้ง่าย เนื่องจากมีธาตุลมเป็นส่วนประกอบ มักพบว่ามีปัญหานอนไม่หลับความเสื่อมของมวลกระดูก ปัญหาโรคปริทันต์ และอาการหลังหมดประจำเดือนในผู้หญิง คือ น้ำมันรำข้าว บัวหลวง มะลิ ช่วยปรับสมดุลการนอนหลับ เพชรสังฆาตช่วยเพิ่มมวลกระดูก กระชายรักษาโรคปริทันต์และดับกลิ่นปาก รวมถึงตำรับยาแก้ประจำเดือนจะหมด ประกอบด้วยสมุนไพร 22 ชนิด ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างเยอะมีใช้ในตำรับหมอยาชาวบ้านมานานแล้ว ทั้งยังมีงานวิจัยในคณะเภสัชกรรม ม.ขอนแก่น ที่มีการทดลองในสัตว์ให้เหมือนผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ที่จะมีภาวะซึมเศร้า กระวนกระวาย หลงๆลืมๆ และผลจากการทดลองพบว่าตัวยาดังกล่าวสามารถลดอาการต่างๆลงได้ดีและมีความปลอดภัย ซึ่งจะมาการใช้ในคนแล้วแต่ต้องจ่ายโดยแพทย์ ส่วนในเพศชายภาในงานจะมีการเปิดตัวตำรับยาพิเศษ สมัย รศ 131 ด้วย
ภก.ณัฐดนัย มุสิกวงศ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนางานวิจัยด้านสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า สำหรับตำรับยาพิเศษสมัย ร.ศ.131 นั้น คือ ตำรับแก้กล่อน ประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิดที่มีฤทธิ์ทางการบำรุงสมรรถภาพทางเพศ เช่น กระชาย กระวาน พริกไทย เป็นต้น อย่างไรก็ตามตำรับ ร.ศ. 131 นั้น มีสรรพคุณช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ให้ไปเลี้ยงส่วนปลายได้ดีขึ้น แก้ชาปลายมือปลายเท้า ชะลอความเสื่อมของร่างกาย แก้อาการวัยทอง ร้อนๆหนาวๆ ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีขึ้น เนื่องจากสมุนไพรดังกล่าวมีฤทธิ์ร้อน ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ช่วยลดปัญหาการหลั่งเร็ว โดยการกระจายความร้อนที่คั่งค้างในองคชาติที่เป็นสาเหตุการหลั่งเร็ว แก้ความเสื่อมก่อนวัย แก้กษัย ขับปัสสาวะ และลดการอักเสบ
“สมัยก่อนมีการใช้ตำรับนี้ในการแก้ไขปัญหาความกล่อน แก้เรื่องการหลั่งเร็ว การที่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ทั้งนี้เราไม่ได้เน้นเรื่องเพศเป็นหลัก แต่จะเน้นการดูแลทุกช่วงอายุ ไม่แยกเพศหรืออายุ แต่การหยิบยกตำรับยารศ.131 นั้นก็เพราะถือเป็นหนึ่งปัญหาของชายวัยทำงานและชายสูงอายุ ซึ่งเกิดจากความเสื่อมถอยของร่ายกายตามอายุ ” ภก.ณัฐดนัย กล่าว
