“กรมธรณี-อุทยานฯ” เลือก10ถ้ำ นำร่อง ทำแผนที่-โซนนิ่งพื้นที่ท่องเที่ยว คาดคนอยากเห็น “เนินนมสาว-หาดพัทยา”

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี(ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวถึงกรณีการดำเนินการฟื้นฟูถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่า ทธ.จะประชุมร่วมกับกรมอุทยานฯ เพื่อจัดลำดับการสำรวจและจัดทำแผนผังถ้ำ โดยทางกรมอุทยานฯ จะเป็นฝ่ายคัดเลือกถ้ำที่มีศักยภาพในการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปจำนวนมาก จำนวน 10 แห่ง จากถ้ำในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ จำนวน 169 แห่งเพื่อดำเนินโครงการนำร่อง ซึ่งถ้ำหลวงฯ จะเป็นพื้นที่ 1 ใน 10 แห่งที่เข้าสู่โครงการนำร่องดังกล่าว โดยจะมีการจัดประชุมอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน นี้ ทั้งนี้ทธ.จะสำรวจถ้ำหลวงฯ ร่วมกับกรมอุทยานฯ โดยจะจัดทำรายละเอียดลักษณะโครงสร้างของถ้ำ ทำแผนที่ถ้ำเพื่อฟื้นฟูและบริหารจัดการถ้ำอย่างถูกหลักวิชาการต่อไป อย่างไรก็ตามถ้ำทั่วประเทศมีกว่า 2,000 แห่ง เราคงไม่สามารถสำรวจได้ครอบคลุมทั้งหมดได้ จึงต้องจัดลำดับความสำคัญก่อนดำเนินการ

นายทศพร กล่าวว่า การสำรวจถ้ำหลวงฯ นั้น จะมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมสำรวจด้วย เพื่อนำข้อมูลมาเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวถ้ำหลวงฯ ต่อไป โดยจะมีการจัดทำโซนนิ่งพื้นที่ว่าโซนไหนปลอดภัยสามารถเดินท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง หรือในส่วนลึกที่มีระดับความยากจะต้องมีผู้นำเที่ยว นอกจากนี้ถ้ำหลวงฯ เป็นพื้นที่มีความเปราะบางทางระบบนิเวศจะต้องมีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ไม่ให้มีการออกนอกเส้นทางไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อระบบนิเวศหินงอกหินย้อยและสร้างความเสียหายได้ โดยเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะเป็นตัวจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวภายในถ้ำไปในตัว ซึ่งการบริหารจัดการถ้ำจะเน้นความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ โดยต่อไปกรมทรัพยากรธรณีจะจัดทำคู่มือการเที่ยวถ้ำเพื่อให้ความรู้กับประชาชนในการท่องเที่ยวถ้ำอย่างปลอดภัย

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ถ้ำหลวงฯ นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะให้คนเดินทางมาท่องเที่ยวถ้ำมากขึ้น โดยเฉพาะจุดบริเวณที่เป็นจุดเด่นของถ้ำ คือบริเวณเนินนมสาว และหาดพัทยา จะต้องมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากอยากจะมาเห็น หากไม่มีแผนบริเวณจัดการที่ถูกต้องจะทำให้ระบบนิเวศเสียหายอย่างมาก จึงต้องมีแผนบริหารจัดการให้รัดกุม นอกจากนี้ทางกรมทรัพยากรธรณีจะจัดการประชุมถอดบทเรียนเรื่องถ้ำหลวงฯ เพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้ว่าใช้ศาสตร์ในเรื่องใดเข้ามาดำเนินการเพื่อให้ปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตปลอดภัย ทั้งความรู้ทางด้านธรณีวิทยา วิศวกรรม และอุทกศาสตร์ เป็นต้น”อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image