เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 กรกฎาคม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จทรงเยี่ยมการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่อทำหมันสัตว์เลี้ยงของประชาชนในกิจกรรม “กทม.เติมความสุข สู่ชุมชน” เพื่อขับเคลื่อนโครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน เพื่อชุมชนอยู่ดีมีสุข” ในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ซึ่งมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นางวาสนา ขวัญเมือง ภริยา นำคณะผู้บริหารกทม. ผู้บริหารกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ข้าราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนกว่า 5,000 คนแต่งกายสุภาพ สวมเสื้อสีเหลืองร่วมรับเสด็จ ที่เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ เขตบางคอแหลม
โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จทอดพระเนตรเต็นท์อบรมการดูแลสุนัข ด้วยพระพักตร์แจ่มใส จากนั้นประทับรถกอล์ฟเพื่อทอดพระเนตรบูธต่างๆ ภายในงาน ก่อนเสด็จไปยังบริเวณเต็นท์สัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์และเสด็จไปยังห้องสรงเพื่อเปลี่ยนฉลองพระองค์สำหรับทรงงาน ทรงร่วมกับทีมแพทย์อาสาในโครงการ “สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า” ตามพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ในการร่วมผ่าตัดทำหมัน ทรงตรวจและวางยาสลบและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์เลี้ยงของประชาชน รวมถึงทรงให้ความรู้แก่ประชาชนที่มารับบริการ
ด้วยพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ต่อพสกนิกรชาวไทยที่มีพระประสงค์ให้โรคพิษสุนัขบ้าหมดไปจากประเทศไทย นายกรัฐมนตรีจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการโครงการ “สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า” ตามพระปณิธานฯ พร้อมทรงรับเป็นองค์ประธานกรรมการ และผู้ว่าฯกทม.ร่วมเป็นกรรมการ โดยตั้งเป้าให้โรคพิษสุนัขบ้าหมดไปจากกรุงเทพมหานคร ภายในปี 2563 ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักอนามัยและสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตร่วมดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์และขอความร่วมมือจากชุมชน เพื่อเก็บข้อมูลและวางแผนดำเนินการ
สำหรับสถานที่รองรับสุนัข ปัจจุบันกทม.มีศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัข จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ควบคุมสุนัขกทม. เขตประเวศ รองรับสุนัขได้ 1,000 ตัวและศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดกทม. อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี รองรับสุนัขได้ 8,000 ตัว ขณะนี้ มีแผนพัฒนาปรับปรุงคอกแรกรับและการปรับปรุงราง ท่อระบายน้ำและการบำบัดน้ำเสียของศูนย์ควบคุมสุนัข เขตประเวศให้สะอาด ปลอดโรคติดต่อและเพียงพอต่อการรองรับสุนัข รวมถึงก่อสร้างคอกเลี้ยงแมว โดยตั้งเป้าพัฒนาศูนย์ดังกล่าวให้เป็นศูนย์พักพิงต้นแบบต่อไป
