เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 24 กรกฎาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกทม.เป็นประธานพิธีเปิดพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะและนิทรรศการพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ บริเวณอาคารพระยาญาณประกาศ ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องร่วมงานเป็นจำนวนมาก
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กทม.เริ่มเข้าเจรจากับชุมชนที่อาศัยอยู่ภายในป้อมมหากาฬ ตั้งแต่ปี 2558 นับเป็นเวลาเกือบ 4 ปี แรกเริ่มการเจรจาไม่ราบรื่น แต่กทม.ก็ค่อยๆ พยายามเจรจากับชาวบ้านจนสำเร็จ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ภายในป้อมมหากาฬ สิ่งที่ท่านหวงแหนและอยากคงไว้ กทม.จะดูแลอย่างเต็มที่ โดยกทม.จะจัดทำเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ บันทึกความเป็นมาของป้อมมหากาฬตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกัน จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งปัจจุบันกทม.ยังอยู่ระหว่างจัดทำราวกันตกริมคลองโอ่งอ่าง เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ กทม.จะติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง กำหนดเวลาเปิดปิดสวน โดยไม่อนุญาตให้บุคคลเข้าออกยามวิกาล โดยจะจัดเจ้าหน้าคอยดูแลรักษาความปลอดภัย รวมถึงติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) โดยรอบบริเวณ
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันดูแลรักษาไม่ให้ผู้ใดเข้ามาทำลายโบราณสถาน ส่วนอนาคตกทม.มีแนวคิดปรับปรุงอาคารบ้านเรือนบริเวณโดยรอบให้สะอาดสวยงาม ซึ่งจะต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง และพื้นที่โบราณสถานอื่นรอบเกาะรัตนโกสินทร์ต้องปรับปรุงลักษณะเดียวกับป้อมมหากาฬ อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวถึงการปรับปรุงระยะยาวว่าอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เบื้องต้น กทม.จัดทำหนังสือไปยังกรมศิลปากรเพื่อขอปรับปรุงภายในอาคารพระยาญาณประกาศ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ ส่วนเรื่องราวของชุมชนป้อมมหากาฬก็จะนำมาเป็นหนึ่งภายในนิทรรศการ แต่กทม.จะเน้นเรื่องราวความเป็นมาทางประวัติศาสตร์มากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่ากทม.ติดตามความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ได้ย้ายออกไปหรือไม่ว่าปัจจุบันมีคุณภาพชีวิตอย่างไร พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ได้มีการติดตาม บางส่วนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่กทม.จัดให้ อีกส่วนย้ายกลับภูมิลำเนาเมื่อรับเงินช่วยเหลือจากกทม.แล้ว โดยกอ.รมน.กทม.ยังร่วมติดตามด้วย โดยพบว่าชาวบ้านมีความพึงพอใจทั้งหมด
ด้านนายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กทม.ยังได้ประดับไฟสวยงามบริเวณโดยรอบป้อมมหากาฬ เนื่องในวันเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการปรับปรุงภูมิเป็นสวนสาธารณะชั่วคราว ไม่ใช้งบประมาณของกทม.แม้แต่บาทเดียว อาทิ สำนักการโยธาได้นำดินจากโครงการก่อสร้างถนนมาถมและปรับปรุงหน้าดิน ส่วนสำนักสิ่งแวดล้อมได้นำหญ้ามาปลูกให้สวยงาม เป็นต้น อนาคตจะปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะถาวรต่อไป โดยจะตั้งงบประมาณประจำปี 2562 และร่วมหารือกับกรมศิลปากรถึงรูปแบบและวิธีการปรับปรุง ซึ่งกทม.จำเป็นต้องเร่งรัดปรับปรุงภูมิทัศน์แล้วเสร็จสวยงามก่อนวันงานเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาเพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเสด็จ ขณะเดียวกัน กทม.จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเพื่อดูแลและอำนวยสะดวกประชาชน รวมถึงกำหนดเวลาเปิด-ปิดเช่นเดียวกับสวนสาธารณะทั่วไป ตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น.
