เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการจัดระเบียบถนนข้าวสาร ว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม กทม.อนุโลมให้ผู้ค้าตั้งแผงค้าบนทางเท้าได้ชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน ระหว่างเวลา 18.00-24.00 น.เท่านั้น เพื่อรอความชัดเจนถึงรูปแบบการจัดระเบียบที่ กทม.จะประชุมหารือร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์นี้ หลังไม่มีความชัดเจนให้ผู้ค้าลงมาขายบนผิวจราจรได้เนื่องจากกองบังคับการตำรวจราจร (บก.จร.) ระบุว่าขัดต่อกฎหมาย
“ยืนยันว่าการจัดระเบียบไม่ให้ทำให้ผู้ค้าเลิกขายของ แต่ต้องทำความเข้าใจว่าจุดดังกล่าวที่ขายกันมาอย่างยาวนั้น ไม่ใช่จุดผ่อนผัน ถือว่ากระทำผิดกฎหมาย หาก กทม.ไม่ดำเนินการให้ถูกต้องจะเป็นการละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ตามแผนตั้งแต่ปี 2557 คือ การให้ผู้ค้านำแผงค้าลงไปขายบนผิวจราจร แต่มีข้อจำกัดเรื่องการออกข้อบังคับจราจร รวมถึงจุดดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ แลนด์มาร์กของประเทศ ต้องคุยกันระดับชาติ กทม.คงตัดสินใจเองฝ่ายเดียวไม่ได้ จึงจะเชิญกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพูดคุยกันปลายสัปดาห์นี้ เพื่อหาแนวทางแก้ไข หากมีข้อสรุปอย่างไร ต้องยึดตามแนวทางนั้น รวมถึงอาจมีการเสนอข้อสรุปต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วย” นายสกลธีกล่าว และว่า การอนุโลมให้ผู้ค้าตั้งแผงค้าบนทางเท้า กำหนดขนาดแผงละ 1.50 เมตร ขณะนี้มีผู้ค้าแจ้งชื่อที่เขตพระนคร 230 กว่าราย
นายสกลธีกล่าวว่า เตรียมทำประชาพิจารณ์ เพื่อให้ผู้ค้าและประชาชนบริเวณใกล้เคียงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดระเบียบ รวมถึงอยากให้ กทม.จัดระเบียบในรูปแบบใด เพื่อนำมาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย และว่า จะไม่ยอมให้เสน่ห์ของถนนข้าวสาร คือ ความสกปรก เลอะเทอะ
นายสกลธีกล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่าถนนข้าวสารมีชื่อเสียงเพราะการรวมตัวของกลุ่มผู้ค้าว่า ขอชี้แจงว่าถนนข้าวสารได้รับความนิยมมาจากที่พัก โรงแรม ที่นักท่องเที่ยวไปใช้บริการ และทำให้เกิดกลุ่มผู้ค้า ส่วน กทม.เข้าไปดูแลความสะอาดและเก็บขยะ
