เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคประมงทะเล ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา ผลกระทบ และแนวทางการจัดการแรงงานภาคประมงทะเลด้านต่างๆ อาทิ ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และด้านอื่นๆ พร้อมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า จากตัวเลขความต้องการแรงงานภาคประมงในประเทศไทย จำนวน 53,000 คน กระทรวงแรงงานได้หารือเพื่อเตรียมมาตรการในการจัดหาแรงงานภาคประมง และมาตรการดูแล อาทิ การอนุญาตให้แรงงานภาคประมง จำนวน 11,000 คน ที่จะสิ้นสุดอายุการทำงานที่ประเทศไทยในเดือนกันยายนนี้ ให้สามารถอยู่ทำงานต่อได้ โดยจะต้องมารายงานตัวเพื่อขออนุญาตทำงานต่อ ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม – วันที่ 30 กันยายนนี้ ซึ่งจะสามารถอยู่ต่อได้อีก 1-2 ปี
“ส่วนอีกประมาณ 42,000 คน ที่ขาดนั้น เตรียมจะนำเข้าโดยวิธีเอ็มโอยูจาก 4 ประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อเจรจากับประเทศต้นทาง ขอเวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อตกผลึกในรายละเอียด” พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว และว่า สำหรับสิทธิประโยชน์ในการดูแลแรงงานภาคประมง จะต้องดำเนินการให้เกิดความเหมาะสม ส่วนความคืบหน้าการให้สัตยาบันอนุสัญญาแรงงานประมง หรือ C188 นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ได้คำนึงถึงความสอดคล้องกับวิถีชีวิตของการทำการประมง ยืนยันว่ารัฐบาลได้ดำเนินการตามขั้นตอน ค่อยเป็นค่อยไป โดยรับฟังความคิดเห็นผู้ที่นำกฎหมายมาใช้ ให้ปฏิบัติได้จริง และสอดคล้องตามที่ภาคประมงเสนอเพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อไป
