วันที่ 11 สิงหาคม แบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) สรุปพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกและน้ำท่วม ว่าประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนัก จ.เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร อุบลราชธานี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา รวมทั้งด้านตะวันตกของ จ.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี โดยที่เขื่อนแก่งกระจานและเขื่อนน้ำอูน มีระดับน้ำเต็มความจุเก็บกักแล้ว และคาดการณ์ว่าจะยังคงมีฝนเพิ่มขึ้นทำให้ยังคงมีน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มขึ้นอีกได้
วาฟระบุด้วยว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยมีฝนตกหนักบริเวณ จ.ระนอง 114 มิลลิเมตร พังงา 99 มิลลิเมตร สุราษฎร์ธานี 83 มิลลิเมตร พะเยา 74 มิลลิเมตร เชียงราย 74 มิลลิเมตร อุบลราชธานี 73 มิลลิเมตร เชียงใหม่ 71 มิลลิเมตร ชุมพร 68 มิลลิเมตร อุตรดิตถ์ 63 มิลลิเมตร และน่าน 47 มิลลิเมตร
วาฟระบุว่า ปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อน รวมทั้งประเทศอยู่ร้อยละ 70 น้ำไหลลงเขื่อนมากกว่าค่าเฉลี่ย และอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง คือ เขื่อนแก่งกระจาน มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 103 เป็นน้ำใช้การได้จริง 665 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) สถานการณ์น้ำมีน้ำเกินความจุเก็บกัก วันที่ 10 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 12.37 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 15.75 ล้านลบ.ม.เขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 85 เป็นน้ำใช้การได้จริง 4,543 ล้าน ลบ.ม. สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก วันที่ 10 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 50.66 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 42.77 ล้าน ลบ.ม. ยังรับน้ำได้อีก 1,305 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนน้ำอูน มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 103 เป็นน้ำใช้การได้จริง 490 ล้านลูกบาศก์เมตร สถานการณ์น้ำมีน้ำเกินความจุเก็บกัก
วันที่ 10 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 6.09 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 5.22 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนศรีนครินทร์ มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 87 เป็นน้ำใช้การได้จริง 5,231 ล้านลูกบาศก์เมตร สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก วันที่ 10 สิงหาคม
มีน้ำไหลลงอ่างฯ 36.78 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 20.45 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังรับน้ำได้อีก 2,249 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนปราณบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 81 เป็นน้ำใช้การได้จริง 299 ล้าน ลบ.ม. สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก วันที่ 10 สิงหาคม นี้มีน้ำไหลลงอ่างฯ 6.77 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 9.48 ล้าน ลบ.ม. ยังรับน้ำได้อีก 74 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนรัชชประภา มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 84 เป็นน้ำใช้การได้จริง 3,359 ล้าน ลบ.ม. สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก วันที่ 10 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 99.24 ล้าน ลบ.ม. และไม่มีการระบายน้ำ ยังรับน้ำได้อีก 928 ล้าน ลบ.ม.และ เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำกักเก็บร้อยละ 67 เป็นน้ำใช้การได้จริง 3,525 ล้าน ลบ.ม. สถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำปานกลาง วันที่ 10 สิงหาคม มีน้ำไหลลงอ่างฯ 46.59 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำ 30.97 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังรับน้ำได้อีก 3,135 ล้าน ลบ.ม.
วาฟระบุว่า ช่วงวันที่ 11-13 สิงหาคม ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยและทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคุลมบริเวณเกาะไหหลำ จะทวีกำลังแรงขึ้นและถูกพายุยากิเหนี่ยวนำให้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ร่องมรสุมยังคงพาดประเทศพม่าตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง โดยจะมีฝนตกหนักจากอิทธิพลของร่องมรสุมในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมทั้งแนวปะทะของลมมรสุมในด้านตะวันตกของประเทศ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน ตาก หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร อุบลราชธานี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา รวมทั้งด้านตะวันตกของ จ.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
ช่วงวันที่ 14-15 สิงหาคม หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ ทำให้ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านประเทศพม่าตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลให้ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่องได้บางแห่ง ส่วนลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงมีกำลังแรง ส่งผลให้แนวปะทะของลมมรสุมในด้านตะวันตกของประเทศ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทั้งนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้ อาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศลาวตอนบนได้ ขอให้ติดตามการคาดการณ์อย่างใกล้ชิด
