ความคืบหน้าการจัดระเบียบสวนสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายหลังมีการตีแผ่ในสังคมออนไลน์ว่าพบผู้ชายจับกลุ่มร่วมรักภายในสวนลุมพินี ทั้งๆ ที่เปิดปิดสวนเป็นเวลา มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) อยู่ประจำ มีกล้องวงจรปิด และยังมีสวนสาธารณะอีกหลายแห่งที่พบปัญหาในลักษณะเดียวกัน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายทำอนาจาร และต่อมาคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังเหตุดังกล่าว
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจสวนสาธารณะพุทธมณฑล สาย 2 หรือสวนอีเดน เขตทวีวัฒนา ซึ่งมีกระแสข่าวว่ากลุ่มชายรักชายมักจะลักลอบเข้าไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากเป็นจุดอับลับตาคนนั้น ล่าสุดพบว่าเจ้าหน้าที่เขตทวีวัฒนาได้ทำรั้วลวดหนามพื้นที่ให้มีทางเข้าออกทางเดียว และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ. นอกจากนี้ พบว่ายังมีการติดตั้งป้ายประกาศข้อความ “โปรดทราบ !!แจ้งเตือน!! สวนสาธารณะเป็นสถานที่ราชการห้ามเข้ามามั่วสุม และทำอนาจาร สน.ธรรมศาลา-สำนักงานเขตทวีวัฒนา”
ด้านนางอารมย์ วงษ์มหา ผู้อำนวยการสำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำสวนเพิ่มการตรวจตราพื้นที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมาระเบียบการใช้สวนสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพฯยังไม่ครอบคลุมไปถึงกรณีการมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายอนาจาร ทำให้เกิดปัญหาเมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็นพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวจะไม่สามารถเข้าไปดำเนินการใดๆ ได้ หรือแม้แต่หากพลเมืองดีที่พบเห็นพฤติกรรมจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจัดการ เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีอำนาจ ที่สำคัญในกรุงเทพฯมีสวนสาธารณะหลายแห่ง และแบ่งกันรับผิดชอบ ดังนั้นในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 น. นางวัลยา วัฒนรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม จะเรียกประชุมหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางกรอบการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“ในการหารือดังกล่าวได้เชิญหัวหน้าสวนสาธารณะทั้ง 37 แห่งหารือด้วย และจะมีการนำประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดระเบียบในสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นประกาศที่ใช้มาตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2546 มาพิจารณาทบทวน โดยหลักคือจะมีการเพิ่มข้อความเกี่ยวกับการห้ามทำหรือมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายอนาจารในสวนสาธารณะด้วย เพราะที่ผ่านมายังไม่มีข้อห้ามนี้ ซึ่งหากออกเป็นประกาศแล้วจะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น” นางอารมย์กล่าว และว่า นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาด้วยว่าระเบียบที่ออกใหม่ บังคับเฉพาะสวน 37 แห่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักสิ่งแวดล้อม หรือจะครอบคลุมไปถึงสวนที่อยู่ในความดูแลของ 50 สำนักงานเขตด้วยหรือไม่
