เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) หลังจากมีการแต่งตั้ง นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขึ้นเป็นปลัด สธ. แทน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัด สธ.คนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ว่า จากการหารือผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงปลัดกระทรวงคนปัจจุบัน ปลัดกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ และอดีตปลัดกระทรวง รวมทั้งที่ปรึกษา ได้มีการพิจารณารายชื่อที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งต่างๆ ทั้งรองปลัด สธ. อธิบดีกรมต่างๆ ซึ่งได้เสนอรายชื่อทั้งหมดส่งถึง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว และจะเสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งครั้งนี้มีคุณสมบัติอย่างไร กรมใดต้องพิจารณาพิเศษหรือไม่ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า พิจารณาคุณสมบัติทั้งหมด และทุกกรมก็มีความสำคัญเหมือนกันหมด หลายคนอาจมองว่ากรมเล็กกรมใหญ่ แต่จริงๆ ไม่ใช่ ทุกกรมมีความสำคัญ ทำงานเพื่อประชาชน อย่างไรก็ตาม รายชื่อที่แต่งตั้งนั้นพิจารณาแล้วว่าเหมาะสมกับหน้าที่นั้นๆ และจะไม่มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อ
ผู้สื่อข่าว “มติชน” รายงานว่า ขณะนี้มีกระแสการแต่งตั้งรองปลัด สธ.และอธิบดีอยู่ 2 สูตร คือ สูตรแรกเป็นการย้ายรองปลัด สธ.ไปทั้งหมด และไม่มีการขยับตำแหน่งอธิบดีที่ยังไม่เกษียณ ส่วนสูตรที่ 2 เป็นการย้ายรองปลัด สธ.ทั้งหมด แต่ขยับตำแหน่งอธิบดีที่อยู่เดิม โดยสูตรแรกมีความเป็นไปได้ว่าไม่มีการขยับตำแหน่งอธิบดีกรมที่ยังไม่เกษียณ คือ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค โดยรองปลัด สธ.ทั้ง 4 คน คือ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ย้ายไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอื่นๆ คือ พญ.พรรณพิมลอาจย้ายไปเป็นอธิบดีกรมอนามัย นพ.มรุตอาจย้ายไปเป็นอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.ธเรศอาจย้ายไปเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และ นพ.โอภาสอาจเป็นอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนตำแหน่งรองปลัดที่ว่าง จะต้องเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงขึ้นมานั่ง ซึ่งจะมีผู้ตรวจ 1 คนขยับไปเป็นอธิบดีกรมที่เหลืออยู่ คือ กรมสุขภาพจิต โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงมาวิน คือ 1.นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ 2.นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ 3.นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ 4.นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม 5.นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ 6.นพ.บุญชัย ธีระกาญจน์ ส่วนสูตร 2 หากมีการขยับตำแหน่งอธิบดีก็จะเป็น นพ.เกียรติภูมิขยับไปนั่งอธิบดีกรมสุขภาพจิต แน่นอนว่าจะเหลืออธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งทั้ง 2 สูตรจะมีผู้ตรวจราชการขยับไปเป็นอธิบดี หากสูตรแรกมีกระแสว่าอาจเป็น นพ.พิศิษฐ์นั่งอธิบดีกรมสุขภาพจิต แต่หากสูตร 2 อาจเป็น นพ.ณัฐวุฒินั่งอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ แต่ก็ต้องอยู่ที่ท่านรัฐมนตรีว่าจะคงนโยบายให้อธิบดีดำรงตำแหน่ง 2 ปี เพื่อการเดินหน้านโยบายเหมือนเดิมหรือไม่อย่างไร
