กรมศิลป์ฯเล็งขึ้นทะเบียน ‘อาคารพระยาญาณประกาศ’ เป็นโบราณสถาน

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยระหว่างนำคณะไปตรวจการปรับภูมิทัศน์ป้อมมหากาฬ เขตพระนคร ว่า ขณะนี้ กทม.ได้ปรับภูมิทัศน์ภายในป้อมมหากาฬเป็นสวนสาธารณะ พร้อมเปิดให้บริการ ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ นักเรียน เข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 100 ราย สูงสุดวันละ 300 ราย อย่างไรก็ตาม กทม.ยังมีแผนใช้งบประมาณ จำนวน 69 ล้านบาท ปรับปรุงโบราณสถาน ได้แก่ ตัวป้อมปราการและกำแพงป้อมมหากาฬ ซึ่งสำนักผังเมืองได้จัดทำหนังสือไปยังกรมศิลปากร เพื่อขอความเห็นชอบต่อแนวทางและวิธีการซ่อมแซมโบราณสถาน แบ่งเป็น 2 วิธี ได้แก่ การยิงด้วยคอนกรีตและการใช้เข็มดินซีเมนต์ (Cement Column) เพื่อเสริมความมั่นคงของฐานป้อมและกำแพงให้แข็งแรง ขณะนี้กรมศิลปากรอยู่ระหว่างพิจารณาวิธีการ

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน กทม.ยังอยู่ระหว่างประกาศหาตัวผู้รับจ้างซ่อมแซมโบราณสถาน ตามกระบวนการอี-บิดดิ้ง ภายใต้เงื่อนไขหลัก จะก่อหนี้ได้เมื่อกรมศิลปากรแจ้งหนังสือเห็นชอบต่อวิธีการซ่อมแซมและการซ่อมจะต้องเป็นไปตามวิธีการที่กรมศิลปากรเห็นชอบ โดยสำนักผังเมืองแจ้งว่าจะได้ผู้รับจ้างภายในวันที่ 7 กันยายนนี้

Advertisement

“สำหรับตัวป้อมและกำแพงได้รับการขึ้นทะเบียนตั้งแต่ปี 2492 ล่าสุด กรมศิลปากรอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดอาคารพระยาญาณประกาศเพื่อขึ้นบัญชีเป็นโบราณสถานด้วย หากปรับปรุงแล้วเสร็จ ป้อมมหากาฬแห่งนี้จะอยู่ในความดูแลของสำนักผังเมือง พร้อมจัดตั้งคณะกรรมการ 1 ชุด ประกอบด้วย สำนักผังเมือง สำนักการโยธา สำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักงานเขตพระนคร บริหารจัดการพื้นที่และบูรณาการพื้นที่ร่วมกัน” นายจักกพันธุ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางการปรับปรุงอาคารพระยาญาณประกาศว่า ก่อนหน้านี้ กทม.เข้าบำรุงรักษาอาคารไม่ให้ทรุดโทรม พร้อมจัดนิทรรศการภายในตัวอาคาร ปัจจุบัน กทม.ปิดล็อกอาคารเพื่อปรับปรุงแก้ไขอาคารตามข้อท้วงติงบางประการของกรมศิลปากร ส่วนอนาคตหลังอาคารถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน กทม.จะจัดเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ด้านภาษาประจำอยู่ภายในอาคาร เพื่อให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวด้วย

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image