| ที่มา | สกู้ปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์มติชน1 กันยายน 2561 |
|---|
เจ้ากระต่ายน้อย
เทคนิคแกะรอย
แก๊งค้าไม้มู่หลาน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยสูญเสียทรัพยากรป่าไม้ไปจำนวนมหาศาล ไม่ใช่เฉพาะที่ทำลายลักลอบใช้กันภายในประเทศเท่านั้น แต่ตัวการสำคัญที่ทำให้ป่าไม้ต้องสูญเสียไป คือ พวกขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ ตลาดสำคัญเป้าหมายของขบวนการค้าไม้พวกนี้ คือ ประเทศจีน
ล่าสุด ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ภายใต้การอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) บูรณาการ การปฏิบัติร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข จากการปฏิบัติการข่าวทางลับสืบทราบว่ามีการลักลอบทำไม้มีค่าหายากขบวนการข้ามชาติ ชนิดไม้พะยูง ชิงชัน และประดู่ เตรียมนำส่งออกนอกราชอาณาจักร จึงได้เข้าปฏิบัติการและสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 4 รายพร้อมนายทุนชาวจีนในที่เกิดเหตุ
ภายหลังพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับ น.ส.ชลิดา สุพันธมาส หรือ มู่หลาน หัวหน้าขบวนการค้าไม้ข้ามชาติหมายเลข 1 ของประเทศไทย
เบื้องหลังการทำงานเพื่อหาหลักฐานและตัวการขบวนการทำลายล้างป่าไม้ โดยเฉพาะไม้หายากราคาแพง อาทิ ไม้พะยูง ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้ชิงชัน ยากลำบาก ต้องใช้เวลาและอาศัยลูกล่อลูกชนอย่างยิ่ง
ชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ พยัคฆ์ไพร กล่าวว่า เรื่องของขบวนการค้าไม้ข้ามชาตินั้น มีชุดปฏิบัติการอยู่ 3 ชุดด้วยกันคือ
1.ชุดต้นน้ำ คือ พวกหาแหล่งที่อยู่ของกลุ่มไม้ในป่าว่าเป้าหมายต้องการไม้แบบไหน อย่างที่ผ่านมามีการลักลอบตัดไม้พะยูงกันอย่างหนัก ทำให้ไม้ชนิดนี้ร่อยหรอลง เป้าหมายจึงเปลี่ยนมาอยู่ที่ไม้ชิงชัน และไม้ประดู่แทน ซึ่งไม้พวกนี้จะขึ้นเป็นกลุ่มๆ ซึ่งชุดต้นน้ำนี้จะเป็นทีมที่ต้องเดินหาของ หาแหล่งที่ไม้ขึ้นเป็นกลุ่มๆ โดยชุดนี้เมื่อหาแหล่งไม้ได้แล้วก็จะเข้าไปตัดและแปรรูปไม้เป็นไม้ท่อน ขนมาทิ้งไว้ที่ชายป่า เมื่อไม้ถูกขนมาไว้ที่ชายป่าก็จะมีคนดูแลไม้กองนี้ ซึ่งมักจะเป็นคนในท้องถิ่นหรือกลุ่มผู้มีอิทธิพล เพื่อรอส่งขายต่อให้ชุดปฏิบัติการชุดที่ 2 คือ ชุดกลางน้ำ
ชีวะภาพ กล่าวว่า สำหรับชุดกลางน้ำนั้น จะเป็นชุดที่คอยเคลื่อนไม้ออกจากชายป่าเพื่อนำไปเก็บเอาไว้ในโกดัง ซึ่งโกดังเก็บไม้ที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ มักจะเป็นโรงสีเก่า โรงเก็บพืชผลทางการเกษตร เพื่อจะหาช่องทางและระยะเวลาที่เหมาะสมส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยการใส่ไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ เตรียมการส่งออก หรือไม่ก็รอการแปรสภาพเป็นเฟอร์นิเจอร์ อำพรางตาเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบ ทั้งนี้เพราะไม้ที่ปลูกในป่า ถึงอย่างไรก็ส่งออกไม่ได้อยู่ดี จึงมีความพยายามดัดแปลงเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทั้งนี้ โกดังที่ใช้เก็บไม้เหล่านี้มักจะซ่อนอยู่ใกล้กับท่าเรือที่จะเป็นเส้นทางส่งไปต่างประเทศ เช่น คลองเตย เชียงแสน หรือแถบภาคอีสาน ที่คาดว่ามีหลายที่
ขั้นตอนสุดท้าย ปลายน้ำ คือ เมื่อไม้เล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปถึงตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อเตรียมส่งออกไปจุดหมาย ซึ่งเมื่อไม้ถูกส่งไปยังตู้คอนเทนเนอร์แล้ว โอกาสที่จะถูกตรวจหรือถูกจับและยึดไว้เป็นของกลางนั้นน้อยมาก เนื่องจากระบบการตรวจสอบของทางศุลกากร ใช้วิธีการสุ่มตรวจ เพราะมีสินค้าที่ส่งออกจำนวนมาก
การที่ไม้ถูกส่งออกผ่านทางตู้คอนเทนเนอร์ ที่ท่าเรือแห่งใดแห่งหนึ่งนั้น เหมือนกับเป็นการฟอกไม้เหล่านั้นให้กลายเป็นของที่ถูกต้องตามกฎหมายไปในตัว เพราะถือว่าได้ผ่านระบบศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
ชีวะภาพ ระบุว่า สำหรับการหาตัวการทำความผิด เช่นกรณีของมู่หลานนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากก่อนหน้านี้มีการจับไม้พะยูง ไม้ชิงชัน ล็อตใหญ่ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จากการที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลูกจ้างทีโออาร์ 2 คน ที่ อ.เชียงแสน เอาไม้ที่ถูกลอบตัดใส่รถมาเก็บไว้ที่หน่วย โดยหลอกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าเป็นไม้ที่ถูกต้อง ตรวจสอบแล้ว หัวหน้าหน่วยให้เอามาเก็บไว้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหน่วยก็เชื่อใจ เช้าวันรุ่งขึ้นก็เอาไม้ออกจากหน่วย โดยยื่นเอกสารปลอมให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดู พร้อมกับนำไม้ส่วนหนึ่งออกไป แต่ปรากฏว่า ไม้ที่ขนออกไปชุดแรกนั้นถูกเจ้าหน้าที่ทหารยึดเอาไว้ได้
ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทีโออาร์ที่ยังอยู่ที่หน่วยเมื่อทราบเรื่องก็ทิ้งไม้ที่ยังเหลืออยู่ที่หน่วยเอาไว้แล้วขับรถหนี แต่ถูกจับได้ในที่สุด
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 2 คน พร้อมกับหัวหน้าหน่วยดังกล่าวถูกให้ออกจากราชการทันที และมีการขยายผลเรื่องนี้จนในที่สุดพบว่าผู้บงการทั้งหมด คือ ผู้หญิงชาวจีนคนหนึ่งชื่อ มู่หลาน เป็นคนที่มีอิทธิพลในวงการป่าไม้อย่างมาก ก่อนหน้านี้คิดว่าเป็นแค่เครือข่ายหนึ่งอยู่ในลำดับท็อปเท็นของบรรดาผู้ที่ค้าไม้ข้ามชาติ แต่เมื่อมีข้อมูลหนาแน่นขึ้น แน่ใจว่า เธอคือหมายเลข 1 ของประเทศ เพราะสามารถซื้อคนในส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้หลายคนมาก
ส่วนวิธีการได้มาซึ่งผู้กระทำผิดในขบวนการค้าไม้ ทั้งระดับประเทศ และระดับท้องถิ่นนั้น เวลานี้ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรมีอุปกรณ์พิเศษ ที่เรียกขานกันว่า “เจ้ากระต่ายน้อย” เป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้ติดตามตัวผู้ต้องหาได้แม่นยำมาแล้วเกือบทุกราย
เมื่อเราเห็นของกลางคือไม้ที่ถูกตัดทิ้งเอาไว้ในขั้นตอนต้นน้ำ เราจะยังไม่ขนไม้พวกนั้นกลับ แต่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น และจะส่งชุดปฏิบัติการอีกชุดแฝงตัวเข้าไปยังพื้นที่ที่มีของกลางอยู่ เพื่อเอากระต่ายน้อยไปปล่อย กระต่ายน้อยจะเป็นตัวคอยบอกเราว่าไม้ของกลางถูกขนไปที่ไหน โดยใครอย่างไร วิธีการนี้มีรายละเอียดที่จะทำค่อนข้างมาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ขอให้ทุกคนวางใจว่า ต่อไปนี้ กระต่ายน้อยจะเป็นตัวช่วยมัดตัวหาพวกที่คิดร้ายกับทรัพยากรในบ้านเราได้อย่างเด็ดขาด
หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร ในฐานะผู้นำเทคนิค เจ้ากระต่ายน้อย มาใช้ เล่าถึงความเป็นมาเป็นไปในการโค่นขบวนการค้าไม้ข้ามชาติในครั้งนี้…
