‘อัศวิน’ ชี้อนุรักษ์ ‘เหี้ย’ ต้องซาวเสียง เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบ

เมื่อวันที่ 3 กันยายน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหาร กทม. ว่า ตามที่สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.รายงานว่าได้ประสานไปยังสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้เข้าจับตัวเหี้ยภายในสวนลุมพินี เขตปทุมวัน เพราะมีประชากรตัวเหี้ยมากขึ้นนั้น เนื่องจากปกติตัวเหี้ยจะออกลูกเป็นไข่ มากถึงครั้งละ 10 ฟอง จากนั้นจะอาศัยความเฉลียวฉลาดขุดดิน ก่อนคาบไข่ไปซุกตามพื้นที่ต่างๆ ทำให้การค้นหาไข่นั้นทำได้ยากเช่นเดียวกับการลดประชากรตัวเหี้ย ทั้งนี้ มองว่าเป็นเรื่องดี หากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ จะช่วยกันออกสำรวจปริมาณตัวเหี้ยและหาแนวทางอนุรักษ์ ซึ่งปกติการดูแลตัวเหี้ยนั้น กทม.ไม่มีเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง หรือผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ มีหน้าที่หลักช่วยจับตัวเหี้ย เพื่อปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ส่วน กทม.ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือและอำนวยความสะดวก อีกทั้งดูแลพื้นที่ไม่ให้ตัวเหี้ยสร้างความหวาดกลัวต่อประชาชน โดยเฉพาะเด็กเล็ก ส่วนนี้มองว่าคนไทยมีทั้งชอบและไม่ชอบ แต่ส่วนใหญ่ไม่ชอบ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต่างชื่นชอบ เพราะเป็นสัตว์หาดูได้ยากในปัจจุบัน

“กทม.ไม่ติดขัดปัญหาใด ส่วนภาคประชาชนและสังคมจะยอมรับได้หรือไม่กับแนวทางดังกล่าว จำเป็นต้องสำรวจความคิดเห็นประชาชนด้วย หลังมีข้อยุติร่วมกับสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ แล้ว ทั้งนี้ กทม.ยินดี กับแนวทางของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทั้งการจัดเทศกาลนับตัวเหี้ย หรือแนวทางการอนุรักษ์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมา กทม.ไม่สามารถควบคุมประชากรตัวเหี้ยได้ เพราะตัวเหี้ยมักจะไข่ไปกลบไปซุกซ่อน โดยปี 2559 กทม.ประสานกรมอุทยานแห่งชาติฯ จับตัวเหี้ยไปปล่อย 150 ตัว เช่นเดียวกับปี 2560 ประมาณ 150 ตัว ล่าสุดปี 2561 กทม.คาดจะมีจำนวนมากถึง 400 ตัว เพราะตัวเหี้ยออกลูกมาก แต่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ แจ้งตัวเลขอาจไม่ถึงตามที่ กทม.คาดการณ์ โดยกทม.จะประสานความร่วมมือ ช่วยกันนับ สำรวจตัวเหี้ย” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวและว่า ส่วนจำนวนตัวเหี้ยต้องมีมากเท่าใดให้สมดุลกับระบบนิเวศนั้น กทม.ไม่มีข้อมูล จะต้องประสานกรมอุทยานแห่งชาติฯ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image