กรมควบคุมโรคเตือนวัยรุ่นไม่ใช้ ‘ถุงยางอนามัย’ เสี่ยงติด ‘เอชไอวี’

เมื่อวันที่ 6 กันยายน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัจจุบันวัยรุ่นไทยมีทัศนคติและพฤติกรรมในเรื่องเพศเปลี่ยนไป วัยรุ่นเริ่มมีความรัก มีแฟน มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตั้งแต่อายุยังน้อย บางคู่คบกันไม่นานก็มีเพศสัมพันธ์แล้ว และอาจมีคู่นอนมากกว่า 1 คน ข้อมูลจากรายงานผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวีกลุ่มนักเรียนประเทศไทย ปี 2560 ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าการมีเพศสัมพันธ์ในครั้งแรกของวัยรุ่นไม่ใช้ถุงยางอนามัยถึงร้อยละ 50 ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และท้องไม่พร้อม

“ขอเตือนวัยรุ่นว่า คิดจะรัก ต้องรู้จักรับผิดชอบ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และท้องไม่พร้อม ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคเน้นให้ความรู้ความเข้าใจเพื่อเสริมสร้างความตระหนักเรื่องการป้องกันตนเองและคู่ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อดังกล่าว รวมถึงมีการรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นเรื่องปกติ รับผิดชอบต่อตนเองและคู่ โดย 1.กล้าปฏิเสธ หากไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ หรือหลีกเลี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย 2.คนพกถุงยางอนามัยเป็นคนรอบคอบ ควรพกถุงยางอนามัยติดตัวไว้เสมอ และใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ใช้ถือว่าประมาท และเสี่ยงติดโรค และ 3.ถุงยางอนามัยนอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมีราคาถูกด้วย” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้ารับการตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลทุกแห่งภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยแสดงบัตรประชาชนที่มีเลข 13 หลัก สำหรับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รับบริการปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีได้โดยไม่ต้องขอคำยินยอมจากผู้ปกครอง หากรู้ว่าติดเชื้อจะได้เข้ารับการรักษาทันที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image