เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สะพานขาว กรุงเทพฯ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการ พม. กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพัก ครั้งที่ 2/2561 ซึ่งมีผู้บริหาร พม. ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการหอพักเข้าร่วม ว่า ที่ประชุมได้หารือถึง พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ.2558 ที่บังคับใช้ในปัจจุบันมีการควบคุมเข้มงวดเกินไป อาทิ กำหนดอายุผู้อยู่อาศัยต้องเป็นนักเรียนนักศึกษาอายุไม่เกิน 25 ปีเท่านั้น แต่ปัจจุบันจำนวนนักเรียนนักศึกษาลดลงไปมาก จากปัญหาคนเกิดน้อยลง ส่งผลให้มีจำนวนนักเรียนนักศึกษาเข้าอยู่อาศัยหอพักน้อย จนไม่สามารถประกอบกิจการและทำตามกฎหมายดังกล่าวได้ ที่ประชุมจึงได้พิจารณาปลดล็อก ด้วยการเตรียมแก้ พ.ร.บ.หอพักฯ ที่จะไม่กำหนดอายุและการศึกษาผู้อยู่อาศัย แต่จะกำหนดคุณสมบัติผู้พักอาศัยอายุเกิน 25 ปีขึ้นไป เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของการอยู่อาศัย อาทิ เป็นผู้ที่อาศัยเดิม ต้องไม่มีประวัติอาชญากรรมและโรคติดต่อร้ายแรง ซึ่งจากนี้กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการจะไปจัดทำคุณสมบัติให้ชัดเจนต่อไป
รมว.พม.กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาการต่อในอนุญาตของหอพัก ที่สร้างตาม พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ.2507 แต่ไม่สามารถต่อใบอนุญาตได้ใน พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ.2558 เนื่องจากติดปัญหามาตรฐานอาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายผังเมือง ทำให้ปัจจุบันมีหอพักที่ไม่มีใบอนุญาตจำนวน 4,194 แห่งทั่วประเทศ ขณะที่มีหอพักที่มีใบอนุญาตจำนวน 8,450 แห่ง ที่ประชุมจึงได้หารือกับกรมโยธาธิการและผังเมือง ในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหอพักสามารถดำเนินการขอรับใบอนุญาตตามกฎหมายกำหนด จึงพิจารณาเห็นชอบให้ปลดล็อกการใช้กฎหมายดังกล่าวกับหอพักที่สร้างก่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ.2558 ด้วยการให้วิศวกรเป็นผู้รับรองว่าอาคารมีความมั่นคงแข็งแรง ก็สามารถมาขอต่อใบอนุญาตหอพักได้ ซึ่งฝั่งผู้ประกอบการก็เห็นด้วย และจากนี้หากผู้ประกอบการยังไม่มาขอรับใบอนุญาต จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 5,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ซึ่งเราจะตรวจสอบอย่างเข้มข้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้กรม ดย.จัดทำคู่มือปฏิบัติงานหอพัก การเปรียบเทียบและการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.หอพักฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สถานศึกษา และผู้ประกอบการมีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน ขณะเดียวกันมอบให้ฝ่ายเลขานุการเร่งจัดทำร่างปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ. … ซึ่งจะมีการแก้ไขประมาณ 2-3 มาตรา เพื่อให้เอื้อต่อการดำเนินงานหอพัก โดยคาดว่าจะเสนอให้กฤษฎีกาพิจารณาภายในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแม้ปลดล็อกกฎหมายแต่หอพักจะยังมีความปลอดภัย เพราะจะให้มีระบบความปลอดภัยอย่างเข้มข้น อาทิ เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ด กล้องวงจรปิด ฯลฯ
