เมื่อวันที่ 21 กันยายน สหพันธ์แรงงานขนส่งระหว่างประเทศ (ITF) เครือข่ายเพื่อสิทธิแรงงานประมง (FRN) สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) สมาพันธ์สหภาพแรงงานสากล (ITUC) สหพันธ์แรงงานและสภาแรงงานอุตสาหกรรมแห่งสหรัฐอเมริกา (AFL-CIO) ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลไทยให้สัตยาบันและปฏิบัติตามอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ C 188 ว่าด้วยการทำงานภาคการประมง พร้อมทั้งดำเนินการ 1.กำจัดแรงงานขัดหนี้ ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมในการทำหนังสือเดินทาง บัตรสีชมพู ใบอนุญาตทำงานจากตัวแทนและนายหน้า 2.เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 12,000 บาท ต่อเดือน 3.แรงงานประมงทุกคนต้องได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน พร้อมทั้งมีสิทธิถือสมุดบัญชีธนาคาร บัตร เอทีเอ็ม และรหัสกดในครอบครอง 4.แรงงานประมงทุกคนต้องได้รับสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรในภาษาของตนเอง 5.แรงงานประมงทุกคนจะต้องได้รับการฝึกอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถเข้าถึงชุดปฐมพยาบาลที่จัดไว้บนเรือแต่ละลำ 6.เรือทุกลำต้องมีขั้นตอนและแนวทางปฏิบัติในกรณีการรักษาพยาบาลฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน 7.จัดให้มีจรรยาบรรณในการเดินเรือบนเรือทุกลำที่ทำประมงในน่านน้ำไทย และ 8.แก้ไขกฎหมายแรงงานไทยเพื่อให้แรงงานข้ามชาติสามารถจัดตั้งและมีส่วนร่วมในสหภาพของพวกเขา
ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า แรงงานประมงจากประเทศกัมพูชาและพม่าที่ทำงานในกิจการประมงในประเทศไทย ยังคงประสบกับปัญหาการถูกละเมิดสิทธิด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชนอยู่ หลายครั้งถูกบังคับให้ทำงานโดยเจ้าของเรือ และไต๋ก๋งที่ยังประกอบธุรกิจประมงอย่างผิดกฎหมาย ถูกปฏิเสธการเข้าถึงการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ การให้สัตยาบันกับอนุสัญญาฉบับที่ C 188 จะเป็นการส่งข้อความไปยังสหภาพยุโรป (อียู) และประชาคมนานาชาติว่าประเทศไทยได้ทำการปฏิรูปและยกระดับไปสู่ใบเหลือง เพื่อให้หลุดจากข้อจำกัดทางการค้าต่างๆ ในประเภทอาหารที่มีต่ออียู นอกจากนี้ รัฐบาลไทยควรรับรองอนุสัญญาฉบับที่ 87 และ 98 ว่าด้วยเสรีภาพในการรวมตัว และการเจรจาต่อรองด้วย
