กทม.ถกกรมปศุสัตว์ เล็งอพยพ ‘นกพิราบ’ ล็อตใหม่สิ้นเดือน ก.ย.นี้

เมื่อวันที่ 24 กันยายน นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังประชุมแนวทางการจัดระเบียบนกพิราบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นสพ.จีระศักดิ์ พิพัฒน์โสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ผู้แทนสำนักอนามัย และ 7 สำนักงานเขต ที่มีปัญหานกพิราบ ได้แก่ เขตธนบุรี เขตบางกอกน้อย เขตสาทร เขตราชเทวี เขตห้วยขวาง เขตหลักสี่ เขตพระนคร ว่า ได้กำชับ 50 เขต เข้าสำรวจทุกพื้นที่ พร้อมดำเนินมาตรการตัดวงจรให้อาหารนกพิราบเด็ดขาด ผู้ให้อาหารนกจะมีโทษตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สาธารณสุข พ.ศ.2560 หมวดเหตุรำคาญ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน และปรับไม่เกิน 25,000 บาท ส่วนผู้จำหน่ายอาหารนกมีโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2558 ในการแบ่งบรรจุอาหารสัตว์เพื่อการขาย และไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายอาหารสัตว์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 โทษปรับสูงสุด 2,000 บาท โดยให้เจ้าหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือน หากฝ่าฝืนให้บังคับใช้กฎหมายจากเบาไปหนัก

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันนกพิราบอพยพเข้ามาอยู่ในเขตเมืองจำนวนมาก กระจายอยู่ตามพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับเขตเมืองทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตอภัยทานตามวัด ซึ่งบริเวณที่มีการให้อาหารปลาจะมีนกพิราบมาก บางส่วนยังพบอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนประชาชนที่มีการให้อาหาร เช่น เขตหลักสี่ เขตห้วยขวาง ปัจจุบันให้เจ้าหน้าที่ลงไปทำความเข้าใจกับเจ้าของบ้านแล้ว ฉะนั้น ขอความร่วมมือประชาชนอย่าให้อาหารนกเด็ดขาด เพราะการให้อาหารนกทำให้นกเสียนิสัย ไม่ออกหาอาหารเอง นอกจากนี้ สำนักสิ่งแวดล้อม ยังจัดทำป้ายเตือนห้ามให้อาหารในพื้นที่สวนสาธารณะทั้ง 37 แห่งด้วย

“พื้นที่เขตพระนครพบมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ นิยมนำอาหารมาให้นก เพื่อล่อนกมาถ่ายรูปหรือเซลฟี ขณะนี้ ให้เขตกวดขัน ติดป้ายเตือนหลายภาษาและประสานกับบริษัททัวร์ ให้ข้อมูลแก่ลูกทัวร์ห้ามให้อาหารนกเด็ดขาด” นายทวีศักดิ์ กล่าวและว่า กทม.ประสานความร่วมมือกรมปศุสัตว์ ช่วยเคลื่อนย้ายและเข้าทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นที่ที่พบนกพิราบอยู่มาก ปัจจุบันได้เริ่มเคลื่อนย้ายนก 200 ตัว ไปยังพื้นศูนย์กักกันสัตว์ จ.พระนครศรีอยุธยา และสถานพักพิง จ.ปทุมธานี และระยะยาว กทม.จำเป็นต้องจัดหาสถานพักพิงของตนเอง

Advertisement

นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า มีข้อมูลระบุว่า นกพิราบปัจจุบันกลายเป็นนกเมือง ไม่ใช่นกแข่งทำให้บินได้ไม่ไกลเหมือนอดีต หากอพยพไปยังพื้นที่ธรรมชาติ ป่าสมบูรณ์ พื้นที่อุทยานแห่งชาติ นกจะไม่บินกลับมาพื้นที่เดิมอีก ขณะนี้ สำนักอนามัย สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข ประสานเขตที่ประสบปัญหามากทำแผนเคลื่อนย้ายก่อน อาทิ บริเวณท่าน้ำสาทร ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสาทรและวัดข้างเคียง ใต้ทางด่วนเขตราชเทวี ฯลฯ คาดจะเริ่มสิ้นเดือนกันยายนนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ 200 ตัว ที่เคลื่อนย้ายจากวัดบุคคโล เขตธนบุรี ไปยังสถานพักพิง จ.ปทุมธานี ล่าสุด สุ่มตรวจพบเชื้อ Chalamydia psittaci ที่ทำให้เกิดโรคในมนุษย์เกี่ยวกับการติดเชื้อในปอด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอบฆ่าเชื้อในนกแล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image