เมื่อวันที่ 26 กันยายน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) โพสต์ในเฟซบุ๊ก “นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์” ถึงแนวคิดถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 ว่า
แนวคิดถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างประมวล กม.ยาเสพติด ร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติดและร่าง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลฯ รวมสามฉบับ ซึ่งการพิจารณาค่อนข้างช้า และมีรายละเอียดแยะ แต่ละประเด็นยังมีความเห็นต่างกันมาก จึงเป็นห่วงว่าร่างกฎหมาย จะพิจารณาไม่ทันในสมัยนี้ นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดที่แม้จะถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 ในร่างกฎหมาย เดิมที่ยังไม่ได้พิจารณา และจะกำหนดพื้นที่เฉพาะให้เพียงเป็นพื้นที่ทดลองทางวิชาการสำหรับงานวิจัยทางการแพทย์เท่านั้น
แต่จากการยอมรับในสรรพคุณของกัญชาในการรักษาโรคโดยเฉพาะลดอาการเจ็บปวด แคนาดาอนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์มาตั้งแต่ ค.ศ.2001 ในการรักษาโรคลมชักและลดอาการปวด ในขณะที่หลายประเทศใช้รักษาโรค Parkinson Alzheimer Autistic รักษาอาการเบื่ออาหารในผู้ป่วยมะเร็ง ตำรับยากัญชาทางการแพทย์แผนไทยใช้ในการคลายเครียด มะเร็งตับ (4 ตำรับยา) แก้ปวดเมื่อย กันชัก แก้กษัย (เบาหวาน) ที่มี 3 ตำรับยา โดยที่ประเทศอังกฤษมีวางขายในร้านขายยาทั่วไป
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ความสนใจ ตั้งคณะทำงานศึกษาเรื่องกัญชาถึง 4 คณะ องค์การเภสัชกรรมมีงานวิจัยร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รวมทั้งมหาวิทยาลัยต่างๆ ขณะเดียวกันยังส่งทีมงานไปดูสถานการณ์กัญชาในแคนาดาที่รัฐบาลแคนาดามีกฎหมายควบคุม โดยอนุญาตให้มีการปลูกกัญชาเป็นอุตสาหกรรมทั้งใช้ในประเทศและส่งออก อนุญาตให้ตั้งโรงงานและผลิตเป็นผลิตภัณฑ์
จึงมีข้อเสนอจากกลุ่ม สนช.เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2522 โดยใช้ ม.133ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ถอดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 ทดลองวิจัย และผลิตเป็นผลิตภัณฑ์รักษาโรค เฉพาะเพื่อการรักษาโรคเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ผลิตเพื่อความบันเทิง หรือถ้ารัฐบาลยอมใช้มาตรา 44 ปลดล็อก ก็ทำได้ เพื่อประโยชน์ของคนไทยและผู้ป่วยอีกจำนวนมาก