พี่สาวร่ำไห้หน้าหลุมศพ เหยื่อเรือประมงไทยบนเกาะเบนจีน่า-ช่วยไม่ทัน ได้เพียงขนกระดูกกลับบ้านเกิด

เมื่อวันที่ 26 กันยายน คณะช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยในประเทศอินโดนีเซีย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน(LPN) สื่อมวลชน ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้แทนกรมการจัดหางาน ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันเดินทางลงพื้นที่เกาะเบนจิน่า ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อนำกระดูกของนายสมเกียรติ สีเมืองโขง ลูกเรือประมงไทยจาก จ.สุรินทร์ ซึ่งเสียชีวิตและถูกฝังอยู่ที่เกาะเบนจิน่า กลับบ้านเกิด โดยมีนางสุขสันต์ สีเมืองโขง พี่สาวนายสมเกียรติ เป็นตัวแทนครอบครัว และได้นิมนต์พระอาจารย์ประสาร ธงไชย จากวัดพุทธเมตตา กรุงจาการ์ตา ไปร่วมทำพิธีทางศาสนา

ทั้งนี้คณะต้องใช้เวลาในการเดินทางข้ามวันข้ามคืนเนื่องจากเกาะเบนจินาอยู่สุดแดนตะวันออกของอินโดนีเซียใกล้ชายแดนออสเตรเลีย โดยเมื่อเดินทางถึงหลุมฝังศพ นางสุขสันต์ ถึงกันร่ำไห้และได้นำภาพนายสมเกียรติมาตั้งไว้ที่ป้ายชื่อ ซึ่งระบุว่าชื่อนายชัยยา บุญสังข์ สัญชาติกัมพูชา เนื่องจากในสมุดประจำตัวลูกเรือหรือซีแมนบุคซึ่งกรมเจ้าท่าเป็นผู้จัดทำได้ระบุชื่อปลอมตามที่นายหน้าส่งให้

“กลับบ้านน่ะ พี่มาพากลับบ้าน”นางสุขสันต์ร่ำไห้และกล่าวว่า ก่อนมาได้ทำใจแล้วระดับหนึ่ง แต่เมื่อมาเห็นหลุมฝังศพน้องชายกลับทำใจไม่ได้ เพราะนึกถึงวันที่น้องชายโทรศัพท์มาหาเพื่อขอให้ช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ทันจนต้องมาเอากระดูกกลับแทน “ที่น่าเศร้าใจคือแม้แต่เขาตายไปแล้วยังไม่มีชื่อของตัวเอง ต้องเป็นชื่อคนอื่นทั้งๆที่เป็นคนไทยแท้ๆแต่กลับได้สัญชาติกัมพูชา”นางสุขสันต์ กล่าว

Advertisement

ขณะที่พระอาจารย์ประสารได้ทำพิธีสวดมนต์และกรวดน้ำแผ่ส่วนกุศลให้นายสมเกียรติและศพลูกเรือประมงที่ไร้ญาติซึ่งถูกฝังอยู่บริเวณดังกล่าวจำนวนมาก

นางสุขสรรค์ กล่าวว่า เมื่อปี 2553 นายสมเกียรติได้รับการชักชวนจากเพื่อนคนละหมู่บ้านให้ไปทำงานเรือประมง ที่จ.สมุทรสาคร เพื่อหาปลาที่น่านน้ำในประเทศไทย พอปี 2554 นายสมเกียรติได้ติดต่อมาที่ครอบครัวบอกว่าทำงาน อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย จนกระทั่งเมื่อปี 2558 ได้เข้าไปเป็นลูกเรืออยู่ที่เกาะเบนจีน่า

Advertisement

“ที่ผ่านมาน้องชายไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย เมื่อเขาโทรมาแจ้งข่าว เราเองพยายามโทรกลับไปตามเบอร์ที่โทรมา กลายเป็นเบอร์ของเพื่อนลูกเรือประมง เรามาทราบภายหลังจากที่ได้พบกับลูกเรือที่เดินทางกลับมาที่ประเทศไทยว่า ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2558 รัฐบาลไทยได้ไปช่วยเหลือลูกเรือประมงในอินโดนีเซียแต่น้องชายยังกลับไม่ได้ และได้ลงชื่อเอาไว้แล้ว”

นางสุขสันต์ กล่าวว่า ครั้งสุดท้ายที่โทรมา น้องชายบอกว่า ประสบปัญหาเรือโดนจับที่เกาะเบนจีน่า และมีปัญหาเรื่องเอกสารประจำตัวที่ชื่อไม่ตรงกันบัตรประชาชนที่แสดงว่าเป็นตัวตนโดยเอกสารในสมุดคนประจำเรือ ชื่อ ชัยยา บุญสังข์ เป็นคนสัญชาติกัมพูชา จึงทำเขายังไม่สามารถเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยได้

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าวพบว่ามีหลุมฝังศพไม่น้อยกว่า 70 หลุม บางหลุมระบุชัดว่าเป็นคนไทยแต่จำนวนมากไม่ระบุสัญชาติเพราะไม่มีหลักฐานแต่บอกว่ามาจากเรือประมงสัญชาติไทย นอกจากนี้จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่แอลพีเอ็นบนเกาะอื่นๆยับพบหลุมฝังศพลูกเรือประมงไทยและไม่ระบุสัญชาติซึ่งรวมทั้งหมดแล้วไม่น้อยกว่า 100 หลุม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image