เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังเตรียมขึ้นภาษีบุหรี่ในอัตรา 2 บาทต่อซอง และจะนำเงินดังกล่าวมาใช้ในงบประมาณหลักประกันสุขภาพนั้นว่า เรื่องนี้ทางกระทรวงการคลัง และกระทรวงสาธารณสุขได้มีการหารือกันมาระยะหนึ่ง การขึ้นภาษีบุหรี่ หรือที่เรียกว่า ภาษีบาปเป็นเพียงกลไกหนึ่งที่จะนำเงินตรงนี้ประมาณ 4,000 ล้านบาท จากการขึ้นราคาบุหรี่มาใช้จ่ายด้านสุขภาพ ส่งผลให้ต่อไปกระทรวงสาธารณสุขไม่จำเป็นต้องร้องของบประมาณกับรัฐบาลอีกต่อไป และทำให้โรงพยาบาลมีสภาพคล่องมากขึ้น เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาโดยให้งบอุดหนุน แต่ก็ไม่เพียงพอ เนื่องจากการดูแลสุขภาพต้องใช้งบประมาณมาก และตัวเลขค่าใช้จ่ายรายหัวที่แสดงก็ไม่เพียงกับการคงคุณภาพการให้บริการจริง ขณะเดียวกันมองว่า อาจเป็นแรงจูงใจให้คนอยากเลิกบุหรี่ เพราะค่าใช้จ่ายสูงเลิกได้ง่ายขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าเพราะอะไรถึงต้องเป็นภาษีบุหรี่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ได้มีการหารือกับทางกระทรวงการคลัง ซึ่งภาษีบุหรี่ ยังมีกรอบอยู่ ซึ่งได้มีการพิจารณาแล้ว และขอย้ำว่าหากงบได้มาจริง ก็ไม่ใช่เอามาจัดสรรแค่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงฯ แต่รพ.ทุกสังกัดในงบบัตรทอง
