เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ศาลาว่าการ กทม. 2 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เรียกประชุมหัวหน้าหน่วยงาน เตรียมความพร้อมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีกำหนดตรวจราชการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามนโยบายพัฒนาระบบคมนาคมทางน้ำ ให้เชื่อมต่อกับโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะตามเส้นทาง “ล้อ ราง เรือ” ในวันที่ 5 ตุลาคมนี้
พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า กทม.ได้เตรียมเรือโดยสารต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ 2 ลำ โดยเป็นเรือที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล และเรือไฟฟ้า ทดลองนั่งในคลองผดุงกรุงเกษม จากท่าเรือหัวลำโพง ไปยังท่าเรือเทเวศร์ เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพ และผลกระทบ อาทิ มลภาวะ ความเร็ว และความคล่องตัวในการให้บริการ และว่ามีแนวคิดที่จะนำเรือเครื่องยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้หารือกับนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในส่วนของตัวเรือ และกรมเจ้าท่า เพื่อจัดหาเรือไฟฟ้าโดยสาร จำนวน 4 ลำ มาทดลองวิ่งในเส้นทางคลองบางหลวง คาดว่าจะมีการรับมอบภายในเดือนธันวาคมนี้
วันเดียวกัน ที่ท่าเรือสถานีหัวลำโพง สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) กรมเจ้าท่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงสำรวจพื้นที่และทดลองเดินเรือไฟฟ้าโดยสารในคลองผดุงฯ เริ่มตั้งแต่บริเวณท่าเรือสถานีหัวลำโพงที่สร้างขึ้นใหม่ ไปจนถึงท่าเรือตลาดเทวราช รวมระยะทาง 5 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งสำนักการจราจรฯ ได้ทดลองวิ่งเปรียบเทียบกับเรือใช้เครื่องยนต์ดีเซลไปพร้อมกัน โดยเรือดีเซลจะมีควันดำ กลิ่นเหม็น และเสียงดัง ขณะที่เรือไฟฟ้าพบเรือเสียงเบา ไร้ควันและกลิ่น ทั้งนี้เรือไฟฟ้าสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 40 ที่นั่ง มีเสื้อชูชีพประจำทุกที่นั่ง และถังดับเพลิง ทั้งนี้ในเส้นทางดังกล่าว กทม.ใช้งบประมาณ 16.7 ล้านบาท ทำการปรับปรุงท่าเรือที่มีอยู่เดิม 10 ท่า และสร้างขึ้นมาใหม่อีก 1 ท่า เพื่อให้เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (เอ็มอาร์ที) หัวลำโพง เพื่ออำนวยความสะดวก
นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมและประสานการขนส่ง กองการขนส่ง สำนักการจราจรฯ กล่าวว่า เรือไฟฟ้าที่ดัดแปลงใช้แบตเตอรีเต็มรูปแบบ ใช้งบประมาณราว 2 ล้านบาทเศษ กทม.จะทดลองวิ่งบริการประชาชนฟรีตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อคำนวณความคุ้มค่า คุ้มทุน และปริมาณผู้โดยสาร ก่อนจะนำมาให้กรมเจ้าท่าพิจารณาอัตราค่าโดยสาร คาดว่าไม่เกิน 15 บาท รวมถึงจะมีเรือโดยสารชนิดดีเซล 1 ลำ และเรือจากสำนักการระบายน้ำทั้งแบบมีและไม่มีหลังคาอีก 8 ลำ ให้บริการประชาชนตลอดเส้นทาง
“กทม.คาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการเรือโดยสารในคลองผดุงฯ มากขึ้นถึงวันละ 1,000 คน แต่จะต้องเร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูล รวมถึงแจ้งกำหนดระยะเวลาที่เริ่มให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.ระยะห่างต่อลำ 10-20 นาที ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-12.00 น.ระยะห่างต่อลำ 15 นาที” นายสิทธิพร กล่าวและว่า การเปิดเดินเรือภายในคลองผดุงฯ เป็นการพัฒนาจุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน รถประจำทางและเรือ อนาคตแม้จะปิดการคมนาคมทางรถไฟลงก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือ เนื่องจากยังคงมีโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายไปยังพื้นที่ฝั่งธนบุรีอีก ยิ่งทำให้มีการเดินทางเชื่อมต่อกันมากขึ้น รวมถึงปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เรือไฟฟ้าจะขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี 12 ตัว เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า 100% ขับเคลื่อนแทนเครื่องยนต์คล้ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเทสลา แต่ทำให้เรือน้ำหนักเบาลงกว่าเดิม 500-600 กิโลกรัม การชาร์จไฟฟ้านั้น ปัจจุบันมีปลั๊กชาร์จกับสถานีสูบน้ำใกล้เคียงของสำนักการระบายน้ำ ใช้เวลาชาร์จ 6 ชั่วโมง และจะวิ่งได้ไม่เกิน 60-100 กม.ต่อวัน ขึ้นอยู่กับความเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน นายกรัฐมนตรีมีกำหนดตรวจราชการตั้งแต่เวลา 07.30 น. เริ่มจากโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีสีลมไปยังสถานีหัวลำโพง เดินไปยังท่าเรือสถานีหัวลำโพง เพื่อนั่งเรือไฟฟ้าโดยสารลำแรกของประเทศไทย ไปจนสุดถึงสถานีตลาดเทวราช เขตพระนคร และเดินต่อไปที่ท่าเรือด่วนเจ้าพระยา ท่าเรือเทเวศร์
